ผู้ชายทุกคนบนโลก เจ้าชู้ทุกคน! ความเจ้าชู้คือสัญชาตญาณดิบของผู้ชายที่สั่งสมมาตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดมาบนโลก มันคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์
แต่ผุ้ชายที่จัดการกับความเจ้าชู้ของตัวเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้หญิงตาดำๆ เพศแม่
ขอประณาม! การกระทำดังกล่าว

“ของภายนอกที่คุณเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ขอให้ใช้สติรู้จักแยกแยะ และใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อจะได้เข้าให้ถึงภายในของความรู้สึกนึกคิดในจิตใจที่แท้จริงของคน ที่คุณคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา และจงอย่าปล่อยตัวเผลอใจให้ว่องไวนัก โปรดอย่าลืมว่าของมีค่านั้นหากได้มาง่ายๆแล้วใครจะเห็นค่าของสิ่งนั้น”



-- มาดูกันว่า .... ผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนหนึ่ง เค้ามีวิธีตามหาคนที่ใช่ กันยังไง Part II--

ขอตั้งกระทู้ใหม่นะคะ เนื่องจากของเก่าเริ่มยาว เดี๋ยวมึน
ส่วนใครที่มาใหม่ตามไปอ่านได้เลยค่ะ (ทำลิงค์ไม่เป็นงะ)

http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8707973/F8707973.html#100

ขอบอกไว้ก่อนว่าเพื่อนเราไม่ได้จีบแบบหว่านค่ะ ถ้าคนไหนโดนใจ มันก็จะเก็บไว้ก่อน ดูความเป็นไปได้หลายๆอย่างตามที่เกริ่นมา แล้วถึงจะเริ่มปฏิบัติการ
และครั้งนึง จะมีสาวๆในสายตาคนเดียวบ้าง สองคนบ้าง แต่ไม่เกินสามคน(เพราะมันจะจัดการอะไรยากเกินไป)

ส่วนคนที่ถามมาว่าทำงานที่ไหนคงขอปิดไว้นะคะ (ยังสงสารเพื่อนอยู่ ฮ่าๆ)
เอาเป็นว่าที่หนึ่งในกรุงเทพนี่แหละค่ะ

ในช่วงทำคะแนนนั้น คำพูดแทะโลมต่างๆมากมาย จะถูกประเคนมาเพื่อให้ฝ่ายหญิงรู้สึกมีความสุข และเห็นว่าผู้ชายคนนี้มีมุมที่น่ารักดีแฮะ ต่างกับตอนทำตัวบ้าๆบอๆที่ออฟฟิศนะ ดูเป็นผู้ใหญ่ในบางครั้ง และเป็นเด็กๆในบางคราว ...รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนพิเศษสำหรับเค้า เพราะคิดไปเองว่าเค้าเปิดเผยตัวตนแบบนี้ มุมแบบนี้กับเราคนเดียว(แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เล้ย) มีความสุข สนุกที่คุยด้วย .. พอรู้สึกตัวอีกที ก็กลายเป็นว่า ทุกครั้งที่ออนเอ็มมาต้องเลื่อนหาชื่อเค้าก่อนโดยไม่รู้ตัวไปซะแล้ว ...


ตัวอย่างคำพูดแทะโลมที่มักใช้บ่อยก็เช่น
หญิง.. “ เดี๋ยวเค้าไปอาบน้ำก่อนนะ”
เทพ “อาบด้วยๆ” ..
“ตะเองถูหลังให้ด้วยนะ (อีโมชั่นหน้าแดงๆ เขินๆ)”
หญิง ... (เขินจริง เหอๆๆ)

อาบน้ำเสร็จ ..
เทพ .. “มาแล้วๆ หนาวๆๆๆ”
เทพ .. “มามะ ขอกอดทีสิ ”
หญิง .. (อายค่ะ) “แหวะ ใส่เสื้อผ้ารึยังนี่”
เทพ .. “รอเธอมาใส่ให้ อิอิ”

ป่วย ..
เทพ .. (อีโมชั่นหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. เป็นอะไรอะ
เทพ .. เปื่อย ปวดหัวงะ (ป่วยตลอดกาล เพื่อนชั้น.. -_- )
หญิง .. กินยาสิ
เทพ .. กินละ แต่ยังมึนๆอยู่เลยอะ
หญิง .. ไปหาหมอรึยัง
เทพ .. มะมีคนพาไป
หญิง .. ไปเองสิ โตแล้ว
เทพ .. ก็ไม่อยากไปคนเดียวนี่ (ทำหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. งั้นก็ชวนเพื่อนไป
เทพ .. ก็อยากให้เธอพาไปนี่นา (บึ่ยอีกรอบ)

และอื่นๆอีกมากมาย บานตะไท หยอดโน่นนิด นี่หน่อย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจสาวๆ จริงมั้ยคะ
....
...
เมื่อทำความรู้จักมักคุ้นกันได้ระดับนึง แทะโลมกันได้พอควร เมื่อมันรู้สึกว่าผู้หญิงเริ่มมีใจให้มันแล้ว มันก็จะเริ่มเสต็ปต่อไป..

วิธีการที่จะดูว่า ผู้หญิงเริ่มมีใจก็คือ
1. ฝ่ายหญิงทักมาก่อนในเอ็มและเธอเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยมากขึ้น คุยกันนานขึ้น เรื่อยๆ (แสดงว่าเริ่มอยากคุยกะเรามากขึ้น) ยิ่งหลังจากขอตัวไปทำธุระ เช่น ไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วเธอบอกว่า “กลับมาละ” แสดงว่าเธอบอกเราด้วยความที่อยากคุยกะเราต่อ นับว่าใช้ได้
2. เวลาที่ไม่ได้ออนนานๆ แล้วฝ่ายหญิงถามหา ว่าไปไหนมา (แสดงว่าแอบดูเราตลอด ว่าเราออนมั้ย อิ๊ๆๆ)
3. ขึ้นหัวเอ็มเศร้าๆ เหงาๆ แล้วฝ่ายหญิงถาม ว่าเป็นไรมากมั้ย (แสดงว่าเธออ่านหัวเอ็มเราด้วย เย้)
4. เวลาที่แสดงตัวว่าป่วย แล้วฝ่ายหญิงถามไถ่อาการ ดูเป็นห่วงเป็นใยกัน (เธอเริ่มเป็นห่วงเราละ )
5. ผู้หญิงถาม ว่าพรุ่งนี้ เย็นนี้ ตอนนั้นตอนนี้ จะออนมั้ย (โอ้ แสดงว่าคารมกรูได้ผลแน่นอน เสร็จโจรเรยงานนี้ )
ขั้นตอนที่สาม .. ใช้ความสงสารเพื่อเรียกคะแนน

ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ร้อยทั้งร้อย ธรรมชาติออกแบบมาให้เธอเหล่านั้นเป็นเพศที่อ่อนโยน ใจอ่อน และขี้สงสารเป็นทุนเดิม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวย ดุดัน แค่ไหนก็ตาม ..
นั่นแหละ คือช่องว่างที่จะทำให้เพื่อนเราแทรกตัวลงไปโดยง่าย
ยิ่งอีตาชายหนุ่ม ผุ้ที่เคยรื่นเริง ทำหน้าทำตาทะเล้น เป็นตัวบรรจุมุกตลกของแก๊งมาทำหน้าทำตาเศร้าสร้อย มาคุยเรื่องซีเรียสพวกนี้ .. สาวๆร้อยทั้งร้อย เป็นต้องตกหลุมสงสารมันแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะด้วยคำพูดเหล่านี้
..
เทพ ..(อีโมชั่นหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. เป็นอะไรคะ
เทพ .. คิดถึง.. อยากเจอ

วิ้ววววว หัวใจสาวๆแทบจะหล่นไปตาตุ่ม
(อย่าลืมนะคะ ว่าต้องผ่านทุกเสต็ปมาก่อน ต้องรู้สึกว่าผู้หญิงเริ่มมีใจก่อน ซักนิดนึงก็ยังดี ถึงจะใช้คำพูดนี้ได้ ไม่งั้นจะถูกมองว่า .. หม้อค่ะ)
บอกก่อนว่าเป็นการสมมุติคำสนทนาเท่านั้น ที่เราเขียนขึ้นมาเองอะ อาจไม่ตรงเด๋ะแต่แค่อยากให้รู้ว่ามันจะแนวๆนี้ค่ะ

บางทีก็จะใช้คำพูดที่ซีเรียสจริงๆ อย่างเช่น ..
หญิง .. เห็นพี่มีคนมาคุยตั้งเยอะแยะ ทำไมพี่มาเลือกหนูล่ะ
เทพ .. หนูน่ารักที่สุดไง อิอิ
หญิง .. บ้า เอาจริงๆ ทำไมอะ
เทพ .. พี่คุยได้กับทุกคนแหละ ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนทุกคนก็คือเพื่อน เฮฮาไปวันๆ แต่สำหรับหนู พี่รู้สึกว่าหนูมีอะไรน่าสนใจ และทำให้พี่อยากรู้จักให้มากขึ้น
หญิง .. อะไรคะ ที่น่าสนใจ
เทพ .. ตอบยากนะ ลองดูๆกันไปครับ
หญิง ..เป็นแฟนกันก็ดูๆกันไปได้นี่พี่
เทพ .. พี่เจ็บมาเยอะ ผ่านอะไรมาเยอะ ที่แล้วๆมาพี่เคยมีแฟนนะ แต่ทุกคนก็ทิ้งพี่ไปหมด จบเหมือนๆกันหมด ทำให้พี่กลัวกับการที่จะต้องเป็นแฟนกับใครซักคน ...โดยที่ต่างฝ่ายต่างยังไม่รู้จักกันดีพอ เพราะสุดท้ายแล้วพี่ก็จะไม่เหลือใครเลย
หญิง .. (..)
เทพ .. การทีเราตัดสินใจเป็นแฟนกับใครซักคน มันจะเกิดความคาดหวังที่มากกว่าปกติ แล้วบางทีถ้าพี่เกิดทำไม่ได้อย่างที่หวัง พี่อาจจะต้องเสียน้องดีๆอย่างหนูไปอีกคนก็ได้ ซึ่งพี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

..โอ้ววววววววววว จัดการเสริฟด้วยลูกน่าสงสารให้เห็นใจ ตามด้วยเหตุผล และตบด้วยลูก(เหมือนจะ)รัก

คำพูดนี้ใช้บ่อยค่ะ
“พี่เองก็อยากจะรักใครซักคนนะ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่มีใครรักพี่จริงหรอก .. ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น”
“ที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะทิ้งพี่ไป”
“พี่ไม่เหลือใคร”
(พอสาวๆเจอแบบนี้ ถ้าหลวมตัวตอบไปว่า หนูไม่ทิ้งพี่หรอกนะ ก็เข้าแก๊บเลยค่ะ โฮะๆๆ)
ที่มันพูดมาก็ไม่ได้โกหกนะ .. มันไม่เคยบอกเลิกใครก่อน แฟนที่ผ่านๆมาที่มันเคยคบล้วนเป็นฝ่ายไปมีคนใหม่ทั้งสิ้น มันบอกกับเราว่า เพราะตอนนั้นมันโง่ มันทำตัวดีเกินไป เลยกลายเป็นของตายของคนอื่น

แต่ให้เราเดานะ จากอุปนิสัยของมัน ถ้ามันเบื่อใครซักคน หรือรู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่ แต่ดันถลำตัวไปเป็นแฟนแล้ว มันไม่มีทางเป็นฝ่ายบอกเลิกหรอก ..
แต่จะเริ่มห่าง
อย่างเช่น จากที่เคยออนเอ็มคุยกันทุกวัน .. ก็จะกลายเป็นออนบ้าง ไม่ออนบ้าง
จากที่เคยคุยกันนานๆ ก็จะกลายเป็นคุยแป๊บเดียว แล้วก็ขอตัว ไปดูหนัง ไปซักผ้า บลาๆๆ

ชวนไปไหน ก้อาจจะไปด้วยกัน แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่ เรื่องแบบนี้ผู้หญิงรับรู้ได้นะคะ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีซักกี่คนที่ยอมรับความจริงเท่านั้นเอง

แต่ยังไงมันก็จะไม่บอกตรงๆแน่นอน ถ้าผู้หญิงถามว่า เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปนะ ไม่รักกันแล้วเหรอ มันก็จะตอบว่า

“บ้า ไม่ใช่อย่างนั้น”
ถ้าผู้หญิงยังยืนยัน คาดคั้นอีก มันก็จะไม่พูดอะไร แต่จะลูบหัว หรือดึงเข้ามากอด ถ้าอยู่กันสองคนในที่ลับตานะ (.. อ่า เริ่มเรทละ)

เพราะมันรู้ดีว่า .. ผู้หญิงจะรู้สึกดี เมื่อถูกสัมผัสจากคนที่เธอรัก (จริงอะเปล่า สาวๆ)
....
..
มันจะให้เวลากับเพื่อนมากขึ้น ไปไหนไปกับเพื่อน อะไรประมาณนี้
เริ่มมองหาคนอื่น แต่ยังไม่จีบนะ มองๆไว้

จนวันใดที่ฝ่ายหญิงเริ่มหมดรัก หรือคิดว่าฝ่ายชายไม่รักตนแน่แล้ว เธอก็จะเป็นฝ่ายบอกเลิกเองค่ะ

(แน่นอน ว่าอาจจะพูดไปด้วยความน้อยใจ หรือมีคนใหม่ หรืออะไรก็ตาม) มันก็จะเริ่มปฏิบัติการใหม่กับเป้าหมายคนต่อไปทันที และจะเอาเรื่องของคนเก่า ไปเล่าให้คนใหม่ฟังประมาณว่า .. เห็นมั้ยล่ะ สุดท้ายแล้วเค้าก็ทิ้งชั้น ตามเสต็ปเดิม
...
จุดเรียกคะแนนสงสารอีกเรื่องคือครอบครัวค่ะ

โดยเฉพาะเพื่อนเราคนนี้ ครอบครัวมันมีปัญหาจริงๆด้วย พ่อแม่แยกทาง ญาติพี่น้องไม่มีใครเอาไปเลี้ยง ลำบากมากมาย จริงๆเรานับถือมันนะ ที่มันยังสามารถรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา มาเดินทางในสายปกติได้ ดังนั้นเมื่อใดที่มันเล่าเรื่องครอบครัวมันให้เหล่ากลุ่มเป้าหมายฟัง (ไม่ได้เล่าพร่ำเพรื่อนะคะ เฉพาะคนที่เลือกแล้ว) .. โอ้ยย เทใจไปเลยค่ะ ร้อยทั้งร้อย สาวน้อยสาวใหญ่ เป็นต้องเห็นใจ และนึกชมบวกกับประทับใจเพื่อนเราอยู่ไม่น้อย ที่เป็นคนสู้ชีวิต อะไรแบบนี้

มีทั้งมุมที่เป็นเด็ก คุยสนุกสนาน และยังผ่านโลก ผ่านอะไรมาเยอะ ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ในบางมุม ดูพึ่งพิงได้ เอาจริงเอาจัง แม้ตอนนี้จะไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ .. แต่เหล่าสาวๆ ก็มักจะวาดฝัน ว่าด้วยความคิดดีๆของคนๆนี้ คงทำให้มีอะไรพวกนั้นได้ไม่ยาก ..
และนั่นก็คืออีกเหตุผลนึง ที่เหล่าสาวๆยอมเทใจให้มันค่ะ

คุณ Gaea เกือบใช้ได้แล้วค่า .. แต่อย่าลืมว่า ข้อมูลที่ดีต้องมีปริมาณเยอะๆนะคะ หมายความว่า ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนั้นบ่อยๆ และ เกิดข้ออื่นๆตามมาด้วย ขึ้งจะเข้าขั้นค่ะ อิอิ
-----------------------------
อะต่อๆๆ

ทีนี้ๆๆ เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มมีใจแล้ว แต่ถ้าเพื่อนเราดั๊นนน รู้สึกว่า ยัยนี่ไม่ใช่ละ ไปกันไม่ได้แน่นอนแฮะ จะทำไงดี
วิธีปฏิเสธที่นิ่มนวลของมันก็คือ ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเรายังดูใจกันอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่บางการกระทำจะแสดงให้รู้ว่า มันเริ่มห่างจากเค้า เช่น

- ไม่ค่อยจะทักเอ็มไปก่อนเหมือนอย่างเคย หรือนานๆที จะทักไปก่อนบ้าง(แต่ถ้าอีกฝ่ายทักมาก็จะคุยปกติ)
- ไม่เป็นฝ่ายชวนไปไหนต่อไหน (แต่ถ้าอีกฝ่ายชวน แล้วมันว่าง มันก็ไป)
- ไม่คุยนานเหมือนแต่ก่อน (หันไปคุยกับเป้าหมายคนต่อไปแทน)

เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของตัวเอง เพราะเริ่มรู้สึกว่าเธอรอคอยอย่างไร้จุดหมายไปทุกที สาวเจ้าก็จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม ว่าตกลงเราจะเอายังไงกันดีคะ และอย่างที่บอกว่า สาวๆที่มันเลือกมาแต่ละคนนั้น ล้วนดูมีวุฒิภาวะระดับนึง ไม่ใช่สาวที่จะมานั่งคร่ำครวญ ทำร้ายตัวเอง หรือโหวกเหวกโวยวายเมื่ออะไรไม่ได้ดังใจ ดังนั้น การปฏิเสธสาวประเภทนี้ ร้อยทั้งร้อย แม้จะเสียใจแค่ไหนเธอจะยอมรับความจริง (และกลับไปร้องไห้คนเดียว) ไม่ตามตื้อ ไม่เกาะติด .. ซักพักเธอก็จะดีขึ้น และทุกอย่างก็จะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (จึงเข้าแก๊บเพื่อนเรา สบายแฮ)

ถ้าคนๆนั้นอายุน้อยกว่า เป็นรุ่นน้อง มันก็จะตอบประมาณว่า


"พี่คิดว่า ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้วนะ พี่อยากได้หนูเป็นน้องสาวตัวแสบคนนึงมากกว่า หนูเป็นคนที่พี่สามารถคุยอะไรได้อย่างสบายใจอย่างทุกวันนี้ และพี่ก็อยากเป็นพี่ชายที่แสนดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ"

ถ้าผู้หญิงยืนยัน “ แต่.. หนูคิดกับพี่มากกว่านั้นไปแล้วนะ จะให้คิดเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมมันก็ยากนะ”

มันก็จะตบด้วยคำพูดประมาณว่า .. "พี่ไม่เหมาะสมที่จะคบกับใครหรอก เชื่อพี่สิ ถ้าคบกันซักวันหนูก็จะเสียใจ เราอาจจะมองหน้ากันไม่ได้อีก ซึ่งพี่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น พี่อยากได้เราเป็นน้องสาว เป็นพี่น้องที่สนิทกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ บางครั้ง การที่มีใครซักคนยังเป้นห่วงเรา มันก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแฟนกันเสมอไปหรอกนะ"

"พี่พูดแบบนี้ ..หนูคงต้องใช้เวลาทำใจนานเลยนะ"

"คนเรามีเวลามากมายกว่าครี่งชีวิต ถ้าหนูไม่สบายใจที่จะคุยกับพี่ในสถานะนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาช่วย แต่ไม่ว่านานเท่าไหร่ พี่ก็จะรอ รอน้องสาวที่น่ารักคนเดิมของพี่กลับคืนมา"
...
..
เน่าสนิทค่ะ .. และส่วนใหญ่น้องๆเหล่านั้นก็จะกลับไปทำใจ ห่างไปซักพัก พอกลับมาก็จะเป็นพี่น้องกันไป บางทีน้องก้ไปหาแฟนใหม่ มีคนอื่นดามหัวใจ แล้วค่อยกลับมา ถามว่าเพื่อนเราเห็นน้องเค้ามีแฟนแล้วรู้สึกไรมั้ย .. ไม่เลยค่ะ เข้าแก๊บเลย มีแฟนแล้วจะได้ไม่ค่อยมีเวลามาวุ่นวาย ชั้นจะได้จัดสรรเวลาไปให้คนต่อไป สบายแฮ

ถ้าหากว่าเป้าหมายอายุเท่ากัน เป็นเพื่อนกัน มันก็ใช้คำพูดคล้ายๆกันค่ะ แค่เปลี่ยนจากน้องสาว เป็นเพื่อนที่แสนดี เพื่อนแท้ เพื่อนตาย บลาๆๆ ว่ากันไป

เบื้องหน้านั้นใช้คำพูดดิบดี แต่ลับหลัง สิ่งที่มันคิดก็คือ ..
..
ยัยนี่แม่มไม่ไหว
ตามจิกเกินไป
ซกมกเกินไป
ขี้งอน ไร้เหตุผลเกินไป
โลเลเกินไป
บลาๆๆ

เหตุผลที่แท้จริงที่มันไม่เลือกนั้น มันมีอยู่แล้วค่ะ แต่อย่าไปคาดคั้นถามเล้ย มันไม่มีทางหลุดปากพูดมาให้คุณฟังแน่นอน
........
...
อ่ะ ที่นี้มาว่ากันในเรื่องเรทๆบ้าง (อิอิ รู้นะ ว่าหลายคนรอฟัง)

อย่างที่บอกว่าเพื่อนเรา ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนที่มันคบ .. ถ้าผู้หญิงไม่เป็นใจ มันก็ไม่บังคับค่ะ
แต่ถ้าผู้หญิงหย่อน หยอก หยอด กันถึงที่ มันก็เต็มใจสนอง (โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มันดูๆใจอยู่รึเปล่า และไม่จำเป็นว่ามันจะคบใครเป็นแฟนอยู่รึเปล่า)

ช่วงที่มันมีแฟนอยู่ มันก็เคยมีอะไรกับผู้หญิงอีกคนที่มาชอบมัน พอเราด่ามัน มันก็ตอบประมาณว่า....
“ ชั้นก็ผู้ชายทั้งแท่งนะเว้ย เค้ามาให้ท่าขนาดนั้น ไม่เอาก็ตุ๊ดแล้ว”
ซึ้งเลย เจอแบบนี้เข้าไป..

หลังจากที่ตกลงดูใจกัน (นั่นหมายความว่าฝ่ายหญิงเริ่มมีใจบ้างละ) ถ้าถูกใจ มันจะชวนไปนั่น ไปนี่ ไปโน่น
(อ่ะๆ เที่ยวตอนกลางวัน ไปเช้าเย็นกลับนะคะ อย่าคิดลึก)
อาจจะไปดูหนัง กินข้าว ซื้อของ อะไรบ้างตามประสา
มันรู้ว่า ผู้หญิงชอบจัดการ (และบงการ) ดังนั้น เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม มันก็จะชวนคุณเธอไปเลือกซื้อเสมอๆ

“อยากได้นั่นอะ พาไปซื้อหน่อยๆๆๆ”
“อยากไปนี่อะ ไปกันนะๆๆๆ”

อะไรประมาณนี้ ..
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างอย่าหวังเลยค่ะว่ามันจะเลี้ยง จะเป็นป๋าใจป้ำอะไรแบบนั้น (ใจมันไม่ป้ำ แต่จะปล้ำแทน อิอิ)
แชร์กันออกค่ะ ถ้ามากกว่าไม่กี่บาท เศษๆนี่ออกให้ได้ แต่ถ้าหวังจะให้เลี้ยงตลอดรายการนี่ .. หึหึ ฝันไปเถอะ


.....เมื่อไปไหนมาไหนกันบ่อยๆแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้กันมากขึ้น .. ก็ยังมีโอกาสถูกเนื้อต้องตัวกันมากขึ้นด้วยใช่ม้า .. นั่นแหละที่ต้องการเลย

แต่ทีนี้ไอ้ครั้นจะไปจับไม้จับมือ กอดคอกันเลยคงจะไม่งาม
ทุกอย่างมันต้องมีเสต็ปค่ะ


กลับมาต่อละค่ะ

คุณ Heretics ยินดีด้วยค่ะ คุณได้เจอตัวแม่แล้ว อิอิ

รู้สึกว่าจะมีคนมีประสบการณ์เจอแบบนี้เยอะเหมือนกันแฮะ
ความจริงเราว่านะ จะจีบ จะทำเรื่องแบบนี้ก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ ถ้ามีความจริงใจ มีความรักผู้หญิงจริงๆ และมีแค่ทีละคน..

แต่การมาให้ความหวังมากมาย คนโน้นที คนนี้ที พอไม่ใช่ก็จากไปแบบนี้ คิดว่ามันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นา คิดว่าสาวๆหลายๆคนคงคิดเหมือนกัน ขอให้หนุ่มๆเข้าใจด้วยนะคะ อย่าทำร้ายกันเลยค่ะ บาปกรรมป่าวๆน่อ

ต่อจากของเดิม ที่ค้างไว้เรื่องเสต็ปในการ xxx ของเพื่อนเรานะคะ

ต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงบางคนรักนวลสงวนตัว ไม่ชอบให้ชายใดมาแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ แต่ผุ้หญิงบางคนก็อยากให้คนที่รักแตะตัว ลูบหัว จับมือบ่อยๆ ..
ซึ่งวิธีที่จะแยกผู้หญิงสองแบบนี้ออกจากกันก็คือ ..

ทดลองทำค่ะ

เริ่มแรก .. ลูบหัว (ด้วยความเอ็นดู)
จะแค่ตบหัว หรือผลักหัวเบาๆก่อน(นึกภาพออกใช่มะ) เวลาที่ผู้หญิงเอ๋อๆ หรือทำไรผิดพลาด แล้วสังเกตุการตอบสนอง....ถ้าผู้หญิงไม่ว่าไร แถมทำหน้าแอ๊บแบ๊ว หัวเราะ ยิ้มอายๆ หรือปากว่าแต่ใจยิ้ม แบบนี้ใช้ได้ แสดงว่าเธอชอบให้คนรักลูบหัวด้วยความเอ็นดู เหมือนในการ์ตูน ในหนังเกาหลีทั่วไป แบบนี้ไปขั้นต่อไปได้ค่ะ

เสต็ปย่อยค่ะ บางทีนอกจากลูบหัวแล้วก็ยังมาจับผม เล่นผม ดมหัว แล้วก็บ่นเน่าบ้าง หรือชมว่าหอมดีบ้าง
โอยย แค่นี้ผู้หญิงก็กรี๊ดแล้วค่ะ (จะด้วยความอาย หรืออะไรก็ตามแต่ เหอๆ)

แต่ถ้าผุ้หญิงบอกว่า “เอ้ย อย่ามาตบหัวสิ ไม่ชอบนะ”
แบบนี้คงไม่ได้ค่ะ สิ่งแรกที่แว่บขึ้นมาในหัวก็คือ ..ไม่จับหัว เดี๋ยวจับอย่างอื่นแทนละกัน ฮ่าๆๆ

ขั้นที่สอง จับมือ

เมื่อลูบหัวได้ การจับมือกันก็ไม่น่าจะใช่ปัญหา
แต่เพื่อนเราไม่ชอบเดินจับมือค่ะ นอกจากจะอยู่ที่ลับตาคน(อย่างในห้อง อะไรแบบนี้) เนื่องจากว่า ...

มันเป็นการประกาศให้ชาวบ้านรู้มากเกินไปค่ะ ว่าเราสองคนเป็นคนพิเศษกัน
เกิดจับมือกันเดินร่อนไปร่อนมา ไปสยาม ไปดูหนัง แล้วดั๊นมีคนรู้จักมาแอบเห็น อะไรแบบนี้มีหวังจบเห่ ลือกันไปสามบ้านแปดบ้านแน่นอนค่ะ ดีไม่ดีไปเข้าหูกิ๊กอีกคนแล้วจะบานปลายเปล่าๆ

แต่ยังไงก็ตาม วิธีการที่ผู้ชายทั่วๆไปใช้กันบ่อยเพื่อจะจับมือสาวๆ ตามที่เราได้ยินมาก็คือ
ทำให้มัน(เหมือนจะ)เป็นอุบัติเหตุค่ะ

ส่วนใหญ่จะเป้นช่วงที่ผู้หญิงไม่ทันระวังตัว
เช่น เวลาข้ามถนน (มุกยอดฮิต) .. จับมือข้ามไป แล้วทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น
หรือเวลาไปชอปปิ้งแล้วเจออะไรน่าสนใจ (หรืออาจจะแกล้งทำเป็นสนใจ) .. ก็จับมือลากไป แล้วบอกว่า .. เอ้ย ดูนี่ดิๆๆ

จากนั้นดูปฏิกิริยาของคุณเธอ ถ้าเธอเขิน อมยิ้ม หรือไม่ว่าอะไร ก็แสดงว่าโอเคคับ

ยังมีอีกวิธีนึงที่ง่ายๆ ซื่อๆ และได้ผลดี ก็คือถามตรงๆเลยค่ะ
“ขอจับมือนะ” อะไรแบบนี้
(ส่วนตัวแล้วเราว่ามันก็ดูน่ารักดีนะ อิอิ)

ขั้นที่สาม โอบไหล่ – ชวนไปที่ห้อง

รวมเป็นข้องเดียวกันเพราะว่า อาจจะเกิดแบบไหนก่อนก็ได้ค่ะ

จะมาขั้นนี้กันก็ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยากซะทีเดียว
เมื่อลูบหัวได้ มือมันก็เลื่อนมาที่ไหล่ได้ ถูกมั้ยคะ อาจจะไม่ได้โอบไหล่เดินตลอด แต่บางครั้ง บางสถานที่ โดยเฉพาะที่คนเยอะๆนี่ ใช่เลยค่ะ สถาณการณ์เอื้ออำนวยสุดๆ

ถ้าทำถึงขนาดนี้แล้วคุณเธอยังไม่ว่ากระไร แสดงว่าเธอชอบที่จะสัมผัสกับคนรักค่ะ


และถ้าสาวๆหลวมตัวไปที่ห้องละก็ หึหึ เข้าแก๊บครั้งใหญ่เลยค่ะ (เพื่อนเราอยู่หอคนเดียวด้วย งานนี้ต้องได้อะไรบ้างละ)
ส่วนเหตุผลที่ชวนไปห้องก็มีตั้งมากมาย สากกะเบือยันเรือรบ เช่น

- ไม่สบายหนักๆ แบบว่าวันๆนอนอยู่แต่ที่ห้องอย่างเดียว จนสาวเจ้าทนไม่ไหว เป็นห่วง ต้องมาดูใจซะหน่อย
หากเธอไม่มา แค่โทรมาถามไถ่อะไรแบบนี้ ก็จะบ่น อยากกินโน่น อยากกินนี่ (ประมาณว่า ซื้อมาฝากเค้าหน่อยนะตัวเอง เค้าออกไปมะไหว จะทำนั่นก็ไม่ไหว นี่ก็ไม่ไหว) แต่มันไม่เคยแกล้งป่วยนะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นมากเป้นน้อยเท่านั้นเอง หึหึ

- ชวนมาดูหนัง .. มุกยอดฮิตอีกหนึ่งอัน “เอ้อ มีหนังใหม่ เรื่องนี้ๆๆ ที่ตัวเองอยากดูไง มาดูมั้ย” หรือไม่ก็ “ซื้อหนังเรื่องนี้มาอะ ไปดูด้วยกันนะๆๆ ” ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังรักโรแมนติกหรืออะไร แค่หนังฮิตๆทั่วไป หรือจะให้ดีก็แอบสืบหนังที่ผู้หญิงอยากดูมาซะหน่อย แค่นี้ก็ได้ละ

- มุกอื่นๆขึ้นอยู่กับโอกาส และสถานการณ์จะอำนวย เช่น ซื้อเครื่องเสียงมาใหม่ ทีวีใหม่ หรืออะไรแบบนี้

อาวละ สมมุติว่าผู้หญิงหลวมตัวมาที่ห้องละ
ถ้าเกิดสาวเจ้าเป็นแบบรักนวลสงวนตัว ครั้งแรกๆอาจจะยังไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวไก่ตื่น
แต่ถ้าเกิดสาวคนนี้สามารถลูบหัว โอบไหล่ได้ โอเค งานนี้ต้องมีความคืบหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 47

ขั้นสี่ นอนหนุนตัก

ในกรณีที่ชวนมาดูหนัง ระหว่างที่ดู เป็นโอกาสอันดีที่จะชิงหนุนตักเธอ หุหุ ตายเป็นตายละงานนี้
รอดูว่าเธอจะทำยังไง แต่ส่วนใหญ่ สาวๆที่มาถึงห้องได้ ก็ย่อมมีใจให้เพื่อนเราระดับนึงแล้ว ดังนั้น มันเลยยังไม่เคยโดน”ตบตกตัก” เลยซักครั้ง
ส่วนใหญ่สาวๆก็จะอาย ... อย่างดีก็แค่พูดแก้เขินประมาณว่า ทำไรเนี่ย มันก็จะยิ้มเขินๆ ตอบมาว่า “ไม่ได้ทำไรซะหน่อย แบบนี้สบายดี อิอิ”
เมื่อนอนหนุนตักได้ .. มาแล้วค่ะ มือๆๆๆๆ

ห้องปิดมิดชิดเช่นนี้ จะทำอะไรไปไม่มีใครรู้ จับมือซะเลย วิ้ววว
หากผู้หญิงไม่ขัดขืน นี่ละ มันจะกระหยิ่มยิ้มย่องใจ .. ท่าทางจะไม่ยาก
วันแรกๆ ครั้งแรกๆ อาจจะจบลงแค่นี้ เคล็ดลับคือ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนค่ะ ให้เหยื่อตายใจ แล้วอะไรๆมันก็จะง่ายเอง
เมื่อครั้งแรกมาแล้วไม่มีอะไร สาวๆก็มีความสุข เพราะคิดว่าทั้งหมดนั้นผู้ชายทำไปเพราะรัก ดังนั้น ครั้งต่อไปที่ชวน ก็จะไปง่ายขึ้น ดีไม่ดี หลังๆผู้หญิงอาจจะเป็นฝ่ายอยากไปเอง โดยไม่ต้องชวนก็ได้ค่ะ

ขั้นที่ห้า กอด

แต่ละครั้งที่ไปที่ห้อง ก็จะเหมือนกำแพงความรักนวลสงวนตัวของผู้ญิงจะถูกทำลายลงทีละน้อยๆ จากหนุนตัก มาจับมือ โอบเอว .. ถ้ายังไม่ว่าอะไร .. ต่อไปเค้าก็จะกอดค่ะ

(เริ่มเรทขึ้นทุกที พิมพ์ๆไปชักอายละ ฮ่าๆๆ)

สาวๆอาจจะรู้สึกดี อบอุ่น มีความสุข เมื่อถูกกอดจากชายที่เธอคิดว่าเค้ารักเธอ แต่แท้จริงแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้รู้สึกรัก หรืออะไรเลยค่ะ ถามว่าเพื่อนเรามันรู้สึกดีมั้ย รู้สึกดีค่ะ ดีที่ได้กอดใครซักคน แต่ถามว่ารักมั้ย ..ไม่ได้รักค่ะ

เพราะต่อให้ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ต่อให้เป็นผู้หญิงคนอื่นๆ มันก็ยินดีจะกอด เพราะมันมองว่า มันไม่เสียอะไร และผู้หญิงก็มีความสุข เป็นการดีทั้งสองฝ่ายค่ะ
จากนั้นดูปฏิกิริยา ถ้าอีกฝ่ายนึงกอดตอบ หรือมีท่าทีที่ดีตอบสนอง นั่นก็หมายความว่า70%ละ ที่เธออาจจะยอมมากกว่านั้น หุๆๆ

ขั้นที่หก จูบ
(กรี๊ดดด จะเขียนดีมั้ยเนี่ยยย >_<)

อย่าไปคิดค่ะ ว่าผู้ชายจะจูบเพราะรักอย่างเดียว อย่าไปคิดว่ามันจะเหมือนดังเช่นที่สาวๆเคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวาน หรือหนังเกาหลีแสนโรแมนติก

คือ.. สำหรับผู้ชายบางคนอาจจะใช่ .. แต่ระดับเพื่อนเราคนนี้ ไม่ใช่ค่ะ

เหมือนกับการกอดนั่นแหละค่ะ ทำไปเพราะมันคิดว่า ก็รู้สึกดีทั้งสองฝ่าย แต่รักมั้ย ก็ไม่ได้รักเช่นกัน
ถ้าคนอื่น สาวอื่นมายืนให้จูบตรงหน้า มันก็ทำค่ะ ถือว่าเป็นกำไรชีวิต
ต่อให้มันคบใครซักคนเป็นแฟนแล้ว มันก็สามารถไปกอด ไปจุบกับคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกผิดอะไรอยู่ดีค่ะ
เพราะมันคิดว่า เรื่องแค่นี้เอง

ถ้าจูบได้แล้ว ก็ 80% ละค่ะ ต่อไปก็จะ จับ และ จบด้วยขั้นที่เจ็ด..... อย่างที่รู้ๆกัน (ไม่อยากเขียนมาก เดี๋ยวโดนไฟแดง อิอิ เอาเป็นว่าคิดเอาเองเนาะ)
...
..
แต่ใช่ว่ามันจะมีอะไรกับผู้หญิงง่ายๆนะคะ
ทุกอย่างมันใช้เวลามากก บ่มเพาะ ดูใจ ดูหลายๆอย่าง ดูแม้กระทั่งว่า ถ้ามีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แล้วเลิกกันไป ผู้หญิงคนนี้จะเอาเรื่องนี้มาโวยวายมั้ย ถ้ามีความเสี่ยงมันก็จะไม่ทำค่ะ จะให้แค่จูบ นอนกอด อะไรประมาณนี้เท่านั้น

คุณ low_fugacity มีค่ะ ผู้หญิงที่หยุดอยู่แค่ข้อหก (เราเองก้อหนึ่งในนั้นแหละ ฮ่าๆๆ) ก็เป็นอีก 20% ที่เหลือไงคะ อิอิ

ดังนั้นสรุปก็คือ คีย์เวิร์ดรับมือมันอยู่ที่ใจของฝ่ายหญิงค่ะ ว่ารู้จักห้ามใจแค่ไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าไปยอมมีอะไรกับผู้ชายง่ายๆค่ะ
อย่าให้เค้ามาดูถูกเราได้ ว่าเราง่าย และไม่มีค่า

ถึงปากเค้าจะไม่ได้พูดว่าเราง่าย แต่ใช่ว่าเค้าจะไม่คิดค่ะ
เพราะไม่งั้นเราคงมาเขียนเล่าเป็นฉากๆแบบนี้ไม่ได้
ทั้งหมดที่เขียนมา เพราะเพื่อนเรามันเล่าให้ฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นไง อะไรยังไง ต่อหน้ามันคุยดี๊ดีกับผู้หญิงคนนั้น แต่ลับหลังที่มันมาบอกเราแต่ละเรื่องนี่ .. บอกได้คำเดียวว่าสงสารผู้หญิงค่ะ

เราไม่มีวันรู้เลย ว่าพวกผู้ชายที่เราคบ ที่เราจะมีอะไรด้วยนั้นเค้าจะจริงใจกับเราขนาดไหน จะรักกันถึงขั้นแต่งงานกันหรือไม่

เพราะฉะนั้นสาวๆขา..
เวลาคบใคร .. จงพึงระวังตัวค่ะ... เราเข้าใจนะว่าหญิงชายอยู่ด้วยกัน บรรยากาศอะไรมันพาไป มันเป็นใจแค่ไหน แต่อยากให้ฉุกคิดซักนิดนึงค่ะ รอให้แต่งงานกันไปก่อนแล้วจะไปมีอะไรกันขนาดไหน ท่าไหน ก็ไม่มีใครเค้ามาว่านะคะ ฝ่ายชายก็ไม่มีสิทธิ์เอาเราไปว่าลับหลังอะไรขนาดนั้นด้วย และหากแม้ว่าวันนึงจะเลิกกันไปก็ไม่เป็นไรค่ะ อย่างน้อยฝ่ายชายมันก็ต้องโดนสังคมด่าบ้าง จะไปหาคนใหม่ก็เป็นเรื่องยากบ้าง (เพราะเคยแต่งงานมาแล้ว) ไม่ใช่ว่าเรื่องทุกอย่างเงียบหาย และคนร้ายยังลอยนวลอยู่เช่นนี้
เสริมอีกนิด
เราเคยแอบได้ยินเพื่อนเราคุยโทรศัพท์ค่ะ ( จริงๆตั้งใจแอบฟังเลยละ ฮ่าๆๆ )

ประมาณว่า เพื่อนมัน(ผู้ชาย)อีกคนอกหัก เพราะผู้หญิงไปมีคนใหม่ เลยโทรมาปรึกษาเพื่อนเราคนนี้
คำพูดที่เราได้ยิน ถึงกับอึ้งเลยค่ะ

แทนที่จะบอกให้เค้าทำใจ ใครไม่รักเรา เราก็ต้องรักตัวเอง.. ไม่ค่ะ
เพื่อนเราแนะนำไปประมาณว่า

“เมิงทำยังไงก็ได้ ให้ผู้หญิงกลับมารักเมิง ตอนนี้เค้ายังโลเลอยู่ เชื่อกรูสิ พอเค้ากลับมาเมิงทำให้เค้ารักเมิงมากๆ ให้รู้สึกว่าขาดเมิงไม่ได้ เสร็จแล้วเอาให้สะใจเลย จะมีอะไรกันก็ว่าไป แล้วเขี่ยทิ้งไป ให้ผู้หญิงมันรู้สึก ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีใคร ”

“เมิงไม่ต้องสนใจหรอกว่าเค้าจะเสียใจมั้ย ใครดีมาก็ดีตอบ แต่ถ้าแม่มมาทำกันแบบนี้มันก็ต้องเจอแบบนี้”

อื่มมมมมมม ฟังแล้วก็........... นะ ผู้ชาย
...
.


สุดท้ายเราไม่รู้ว่า เพื่อนคนนั้นเค้าจะทำยังไงต่อไป แต่เราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวเพื่อนๆผู้ชายทุกคนค่ะ ว่าอย่าทำแบบเพื่อนเราเลย คุณอยากจะตามหาคนที่ใช่ คนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราเองก็เข้าใจอยู่ แต่กรุณาเลือกวิธีที่มันดีกว่านี้เถอะค่ะ ..ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริง คุณก็ต้องกล้าพอที่จะตัดสินใจคบใครซักคนหนึ่ง กล้าพอที่จะเสียใจถ้าเกิดผู้หญิงคิดว่าคุณไม่ใช่ แล้วทิ้งคุณไป กล้าพอที่จะบอกปฏิเสธ เมื่อคุณรู้สึกว่าผู้หญิงที่คุณคบอยู่มัน “ไม่ใช่” สำหรับคุณ


จริงๆแล้วก็ทั้งหญิงและชายนั่นแหละค่ะ ถ้าไม่ได้รัก ก็อย่าไปให้ความหวังเค้า อย่าหลอกใช้ความรู้สึกดีๆของเค้ามาทำประโยชน์ให้กับตัวเองเลยค่ะ มันไม่เจริญหรอก

การพูดความจริงบางครั้งอาจจะมีคนเจ็บปวด แต่จำไว้ค่ะ ว่าบาดแผลที่เกิดจากมีดบาด มันเจ็บ แต่มันก็หายเร็วกว่ายาพิษที่ค่อยๆซึมซับเข้าไปทีละน้อยๆนะคะ

พอดีว่าด้วยตำแหน่งงานเราเองนี่ทำงานกับผู้ชายซะ99% เรื่องแบบนี้พวกมันชอบมาเล่ากันในแก๊งซะจนไม่คิดว่าเราเป็นผู้หญิง นินทาสาวๆนี่พูดกันเป็นเรื่องธรรมดามากก เหมือน เฮ้ย วันนี้ข้าวเช้าเมิงกินไร
ยิ่งฟังแต่ละคนพูดถึงสาวๆแล้วก็อดสงสารผู้หญิงไม่ได้ เฮ้ออออ ..

จริงๆยังมีพี่ที่ทำงานอีกคนนึงค่ะ นิสัยคล้ายๆเพื่อนเราคนนี้ แต่ไม่หล่อ (ดูซกมกหน่อยๆด้วยอะ) แต่คารมเป็นเลิศ สาวติดตรึม เค้าแต่งงานและมีลูกแล้วนะ แฟนน่ารักโฮก ... แต่เค้าก็เคยบอกกับเราว่า จะมีผู้ชายซักกี่คนที่คบกันเพราะรักได้ยืนยาว ไอ้เรื่องแบบนี้มันก็ช่วงแรกๆนั่นแหละ หลังๆเวลาแฟนถามว่ารักมั้ย ก็ตอบๆไปงั้นแหละ ว่ารัก แต่จริงๆที่แต่งงานไปนี่ก็ไม่ได้รักหรอก ความรักจริงๆมันเป็นยังไงเค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน .. แต่ว่าคบกันมานาน ก็ถึงเวลา ก็เลยแต่ง... -_-‘’ ระหว่างคบกันเค้าก็มีคนอื่น และทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงคนนั้นอยู่ ........... ดีจริงๆ

ตอนนี้เราก็เลยคิดๆอยู่ว่า ..
มันจะมีผู้ชายซักกี่คนว้า ที่แต่งงานไปเพราะรักและเธอคือคนที่ใช่จริงๆ สมัยนี้คงหายากน่าดู

คุณ fallen_angel เราเห็นด้วยค่ะ .. ฮะๆๆ

สรุปแล้วเพื่อนเราปัจจุบันมันก็ยังไม่มีแฟน และยังออกตามหาคนที่ใช่ต่อไป ตอนนี้มันกำลังเริ่มจีบอยู่อีกสองคน(เป้าหมายใหม่) มีแฟนเก่าที่ยังคุยๆกันอยู่อีกสองคน (แต่คงไม่มีทางรีเทิร์น) มีคนมาชอบมัน แต่มันมองแล้วว่า “เธอไม่ใช่” อีกสามคน (มันบอกว่าเป็นพี่น้องกันค่ะ แต่ก็คุยเรื่อยๆ)

แม้เราจะไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเตือนเธอๆสองคนนั้นที้เป็นเป้าหมายใหม่ของเพื่อนเราโดยตรง(เพราะเค้าไม่รู้จักเรา ฮ่าๆ) แต่เราก็หวังว่า เธอทั้งสองจะได้มาอ่านที่เราเขียนไว้นี้ และรู้สึกระวังตัวมากขึ้นค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ K ค่ะ "รักไม่สามารถแลกรักได้"


มันอาจจะยากที่จะรักใครซักคน แต่มันเป็นการยากยิ่งกว่า ที่จะให้ใครคนนั้นรักเราตอบ
.... ถ้าให้รักไปร้อย แล้วได้คืนกลับมาร้อย โลกนี้ก็คงไม่มีคำว่า คนอกหัก กับรักเค้าข้างเดียวสิเนอะ

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:02:22


ที่สุดของเพื่อน จขกท อาจจะไม่เจอคนที่ใช่เลยตลอดชีวิตนี้

เพราะคำพูดหรือความคิดที่สื่อออกไปมันมีผลกับจิตไร้สำนึก

พูดบ่อยๆเข้า ทั้งในเอ็ม ทั้งพูดจริง
ที่สุดมันจะทำให้มีผลกับการกระทำ เพราะจิตย้ำให้เป็นอย่างที่สั่งกายทำ

จิตสั่งกาย

ที่สุดก็จะเจอกับความสัมพันธ์ แบบไม่ยั่งยืน และมีแต่คนทิ้งไป

คิดย้อนกลับ อาจจะเป็นเพราะเขาถูกทอดทิ้ง พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่วัยเด็ก
ความรู้สึกถูกทอดทิ้ง โดดเดี่ยว เจ็บปวดเพราะถูกพ่อแม่หักอก(เปรียบเที่ยบ)
ทำให้ขยาดกับความรัก เข็ด และไม่กล้ารักใคร
เพราะกลัวที่จะเจ็บปวด และถูกหักหลังอีก
ทำให้เขาปฎิเสธการทีจะมีคู่ครองโดยไม่รู้ตัว

และเมื่อผิดหวัง
ก็จะแก้แค้นเอาคืน อาฆาตรุนแรง (จากที่แนะนำเพื่อนที่อกหัก)

อาจจะมีสักวันที่เพื่อน จขกท ระลึกได้
และหลุดพ้นจากวังวน ของรักปลอมๆ
และหันมารักตัวเองอย่างจริงๆจังๆ

จากคุณ : สีน้ำสายรุ้ง
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:32:45


เชื่อเถอะครับ เวรกรรมมีจริง ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้สิ่งนั้นตอบแทน ไม่ช้าก็เร็ว
แต่ที่แน่นอนในตอนนี้ เพื่อนเจ้าของกระทู้ เป็นพวกที่หลงผิด คิดว่าสิ่งชั่วที่ทำนั้น
เป็นกำไรชีวิต หารู้ไม่ว่า นรกและความรุ่มร้อนทั้งหลายนั้นติดตัวอยู่ตลอด แม้ตายไปแล้วก็จะยังตามไปด้วย
ถ้าใครยังพอมีบุญอยู่บ้าง ก็อาจจะเลิกในภายหลัง แต่สิ่งชั่วที่เคยทำไว้นั้น ก็ยังต้องชดใช้อยู่ดี
ไม่คุ้มค่าเลย ไม่ใช่กำไรชีวิตเลย

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นั่นคือเป็นไปตามสิ่งที่ได้ทำมา ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข
แต่สิ่งที่เราเลือกได้คือการกระทำในปัจุบัน ในตอนนี้ นั่นคือ จงใช้สติและปัญญาให้มาก
เมื่อมีเหตุการณ์ใดเข้ามาในชีวิต ให้ใช้สองสิ่งนี้เสมอ จะทำให้พาตัวให้รอดพ้นจากภัยทั้งหลายได้ หรือจากหนักก็จะกลายเป็นเบา

อยากฝากถึงผู้หญิง สติมาปัญญาเกิด และจะช่วยให้แยกแยะผู้คนได้ ว่าใครหวังดีหรือประสงค์ร้าย
และไม่จำเป็นต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆมา แล้วจึงจะรู้ สิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้ ฝึกได้
ขอเพียงใช้ชีวิตให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ก็สามารถพาตัวให้รอดพ้นจากมารสังคมเหล่านี้ได้

และด้วยปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ขอให้ความดีที่ทุกท่านได้ทำมา ส่งผลให้ทุกท่านมีความสุขนะครับ

จากคุณ : Ap_Ni
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:44:45


มาดูกันว่า .... ผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนหนึ่ง เค้ามีวิธีตามหาคนที่ใช่ กันยังไง -- ภาคสองค่ะ

----
ปกติ ไม่ได้เข้าห้องนี้ นะครับ
พอดี มีคนไปโพสท์

กระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8715171/I8715171.html
ซึ่งมีลิงค์ของกระทู้ในห้องนี้อยู่

อ่านเสร็จ

ก็เลย ไปดูรายการ กระทู้แนะนำ ของห้องนี้ด้วย
แล้วมาเจอกระทู้นี้ ทั้งสองภาค

---
ขอแสดงความเห็น ในฐานะ ผู้ชาย
ละกันครับ

ถ้า จขกท เรียก เพื่อนคนนี้ ว่าเทพ ที่เสน่ห์แรง
ตรงนี้ เข้าใจว่า

เพิ่งเคยเจอ เป็นคนแรก หรือ เคยเจอคนแบบนี้มาน้อย
แล้วตัวเอง ก็เคยหลง เสน่ห์ เขาอยู่เหมือนกันด้วย

เพราะ ถ้าตัวเอง ไม่เคยหลงเสน่ห์เขา
คงจะไม่มีทาง ยอมรับ ว่าเขาเป็น เทพ
อย่างแน่นอน

ถูกไม๊ครับ

แต่ถ้า จขกท ปฏิเสธ ว่าไม่เคยหลงเสน่ห์
นั่นก็คง เพราะ เขาไม่เคยหว่านเสน่ห์ ให้นั่นเอง

ตอนนี้
ก็เหลือ เหตุผลประการเดียว

คือ จขกท ไม่มี อะไร น่าสนใจ หรือ
น่าดึงดูด สำหรับเขา เมื่อเทียบกับ สาวคนอื่นๆ

เขาก็เลยมองข้าม ไปเลย

ตรงนี้
อย่าเคืองกันนะครับ

---

ถ้าผมบอกว่า ในมุมมอง หรือ สายตาผู้ชาย
ที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะ

หรือ อย่างน้อย ก็น่าจะเยอะกว่า จขกท

ผมกล้าพูดว่า

คนแบบนี้ ไม่ใช่....... เทพ เจ้าเสน่ห์
อะไรหรอก

แต่เป็นแค่ ..............นักมายากลความรัก

หลอกได้ แต่ คนอ่อนประสบการณ์
ที่ มีอารมณ์อ่อนไหว

ริเล่น กับไฟ ก่อนวัยอันควร
เท่านั้นแหละ

ผมเตือน สติ สาวๆ ในกรณีข้างต้น
ไว้ละกันครับ

ไม่มีใคร หลอกคุณได้
ถ้าคุณ ไม่หลอกตัวเอง

---

วิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะดูว่า
ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ ที่เข้ามาหาเรา

กำลังแสดง มายากลความรัก ชุดใหญ่
ให้เรา ดูอยู่หรือเปล่า

ก็คือ
พาเข้าบ้าน ไปปรึกษา คน ในบ้านครับ

มาลองให้ พ่อ-แม่ พี่-น้อง ช่วยดูให้

หรือ ถ้าในบ้าน มี ปู่-ย่า ตา-ยาย
อากง- อาม่า ลุง ป้า น้า อา ฯลฯ ยิ่งดีครับ

ช่วยๆ กันดูให้

รับรองว่า
ถ้าชายคนนั้น เป็น

นักมายากล ความรัก

มือต้องสั่น ใจต้องหวั่นไหว

กลชุดใหญ่ ทีเตรียมไว้
เล่นไม่ออก หรอกครับ

แต่
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ที่โดนหลอก
เพราะ คิดว่าตัวเองแน่ เก่ง เจ๋ง

อ่านคนออก ดูคนขาด มั่นใจสุดๆ

ความเห็นคนอื่น ที่ไม่ตรงกับ ใจตัวเองน่ะ
ใช้ไม่ได้ มองไม่ออก หรือ เข้าใจผิด ทั้งนั้นแหละ

ว่าไปโน่น

สุดท้าย
ก็ เข้าทาง อ่ะนะ

บอกแค่นี้ละกันครับ
เดี๋ยว นักมายากล ความรัก

เขาจะเคืองเอา

----
หัวข้อกระทู้ ที่ผมเข้าใจ น่าจะเป็น

นักมายากล ความรัก กับ วิธีการหา เหยื่อ ที่ใช่

มากกว่า

---

ขอให้สาวๆ ทุกคน ที่ตามหารักแท้อยู่
สมความปรารถนา

และ

ปีใหม่นี้เป็นต้นไป ก็ขอให้มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรง และ พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ในชีวต

----

ไปล่ะ ครับ

จากคุณ : The Rounder
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 15:37:12


ความเห็นส่วนตัว

ผมว่า

ที่เจ้าของกระทู้

นำเรื่องราวมาบอก

มันก็ดีอยู่อย่างนะครับ

คือทำให้ทั้งหญิงและชายที่เข้ามาดูในกระทู้นี้

ได้เปิดมุมมองของตัวเองมากขึ้น

สำหรับผู้หญิง

จะได้รับรู้ว่า

ก่อนที่จะตัดสินใจ หรือหลงใหลรักชอบใครสักคน

เวลาที่มีผู้ชายลักษณะนี้ มาทำดี หยอดอยุ่เรื่อยๆ

เผื่อจะหยุดคิดสะกิดความรู้สึกกันบ้าง

ใช่ว่าจะมีความจริงใจ

ในทุกครั้ง และทุกคนที่เข้าหาเรา

น้ำผึ้งบางทีก็ซ่อนยาพิษไว้เหมือนกัน


ส่วนผู้ชาย

ที่คิดจะเป็นแบบนี้

หรือกำลังทำตัวแบบนี้

ก็ได้รับรู้ว่า

สุดท้ายแล้ว

ก็ใช่ว่าจะได้รับความสุขเสมอไป

เพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นเจ็บแล้ว

ตัวเองก็ยังเจ็บไปด้วย

สุดท้ายหาความหมายไม่เจอ

ว่ารักจริงๆเป็นยังไง

ได้แต่ความสนุก ชั่วครู่ชั่วยาม



ส่วนหลังจากที่ได้รับรู้มุมมองเหล่านี้แล้ว

เวลาพบเจอสถานการณ์แบบนี้จริงๆ

ก็เป็นเรื่องของแต่ละท่าน

ตัดสินใจกันเอาเอง

และก็ต้องยอมรับผลด้วย


ในกรณีรู้แล้วยังจะเล่นกับคนลักษณะนี้อีก


จะเรียกว่าสเน่ห์แรงขั้นเทพหรือไม่

ผมก็ไม่รู้

และไม่สน

แต่จากตัวอย่างในกระทู้นี้

ก็บอกกับผมได้อย่างนึงว่า

การตามหารักแ้ท้ หรือคนที่ใช่

ถ้าไม่มั่นใจในความรุ้สึกตัวเองจริงๆ

หรือแค่ทำเพราะตอบสนองความต้องการ และตัณหาส่วนตัว

อย่าเจือกเก็บคนอื่นไว้ในสต็อค

หรือไปสร้างความหวังกับคนอื่นเค้า

หรือจีบดะไปเรื่อยๆ เพื่อหวังเอาชนะ

อย่างนั้นผมไม่ได้เรียกสเน่ห์แรงหรอกครับ

นิยามของเค้าแค่เหมาะสมกับคำว่า

่ผู้ชายหลายใจ

ที่อาศัยความรู้สึกของคนอื่น

มาเป็นเครื่องมือทำให้ประสบความสำเร็จส่วนตัว

ซะมากกว่า


ด้วยความเคารพ

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 18:29:30

จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 18:27:49

ความคิดเห็นที่ 101

^^ ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

ตอบคุณ The Rounder นะ
สมแล้วที่มาจากห้องสินธร อ่านขาดมากค่ะ อิอิ
อาจจะใช่ค่ะ เพื่อนเรามันอาจจะเป็นแค่นักมายากลความรัก

เป็นคนที่หลอกได้แค่ผู้หญิงอ่อนประสบการณ์ และมีอารมณ์อ่อนไหว
แต่เราเชื่อว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เป็นพวกนั้นแหละค่ะ แม้จะแข็งแค่ไหนแต่ก็ยังมีความอ่อนไหวอยู่ เรื่องของประสบการณ์ ก็ยังมีผู้หญิงอีกมากที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในวังวนแบบนี้ ..

เราเลยอยากลัดขั้นตอนให้สาวๆค่ะ เรียนรู้จากความเจ็บปวดของคนอื่น เวลาเจอคนแบบนี้จะได้รู้ว่าเค้ามาไม้ไหน
..
.

อยากที่ตอบไว้ในกระทู้ที่แล้วค่ะ ว่าเราเองก็โดนมันหลอกมาเช่นกัน

ก่อนหน้านั้นที่เป็นเพื่อนสนิทกัน มันก็จะมาเล่าเรื่องของมันกับสาวคนนั้น คนนี้ให้ฟังบ่อยๆ .. และด้วยความที่เราคิดว่า เราเนี่ย รู้เรื่องของมันเยอะนะ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนสนิทมันนะ พอมันจะหันมาหาเรา เราเลยไว้ใจระดับนึง ว่ามันคงไม่หลอกเรา

เพราะทุกอย่างที่มันทำ มันเหมือนกับว่าเราจะเป็นตัวจริงของเค้า

บอกตรงๆว่าเราเองน่ะ ชอบมันมาตั้งนานแล้วละ แต่ไม่อยากจริงจัง เพราะรู้ว่ามันป้อล้อกับคนอื่นแค่ไหน พอมันจะหันมาหาเรา ในใจเราก็ดีใจนะ แต่เราก็ทดสอบมันหลายอย่าง
..
.

เราบอกว่า เราไม่ชอบคนกินเหล้าและไม่มีวันเอาคนกินเหล้ามาเป็นแฟน มันก็เลิกกินเหล้า เวลาพี่ๆที่ออฟฟิศชวนไปเที่ยวกลางคืนไรงี้ มันก็ไม่ไป พอเราถามว่า ทำไมไม่ไปล่ะ มันบอกว่า " ก็แกไม่ชอบไม่ใช่เหรอ" (โห้ยย รู้สึกดีมากมาย)

เรามีคนมาจีบ เป็นหนุ่มจบนอก มีบ้าน มีรถ (แต่พอดีไม่ใช่สไตล์ค่ะ เราไม่ชอบคนรวย แบบว่าเค้าเพอร์เฟคเกินไป) พอเราเล่าให้มันฟัง มันก็บอกเราว่า ตอนนี้มันไม่มีอะไร แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป มันไม่ยอมแพ้ใครหรอก มันจะทำ จะพิสูจน์ให้เราเห็น ให้เราคอยดูสิ (เราก็เชื่อมันนะ ฮะๆ มันได้คะแนนอีกแล้ว)

เราบอกมันว่า จะไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นก็ได้นะ เราเข้าใจว่าเพื่อนๆเค้าก็ต้องมีผู้หญิงบ้าง จะมีแฟนแล้วให้เลิกคบกับเพื่อนผู้หญิงทุกคนเลยก็ใช่ที่ .. มันก็บอก ก็รายงานเราตลอด เสาร์นี้ไปนี่นะ อาทิตย์ไปโน่นนะ (เราเลยไว้ใจมันมากขึ้นๆ เหอๆ)

และหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ หลายคำพูด มันทำให้เราเชื่อใจมันเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ (ดีนะที่ยังเผื่อใจไว้เจ็บ) แต่แล้วทุกอย่างมันก็พังหมด เป็นอย่างที่เห็น

..
.
ตอนที่เรารู้ว่ามันจีบคนอื่นด้วย เรายังไม่อยากจะเชื่อเล้ย .. เราหาข้อพิสูจน์มากมาย แกล้งโง่ต่อไป และพยายามสังเกตุพฤติกรรมทุกอย่าง จนผลสรุปมันออกมาเป็นแบบนี้

เรานะเสียใจร้องไห้มากมาย แต่พอมาเห้นมันยังหัวเราะ ยังจีบผู้หญิงคนอื่นได้เรื่อยๆ โดยไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลยนี่เราก็บอกกับตัวเองเลย พอกันที เลิกเสียใจได้ละ เสียใจไปมีแต่เราที่เป็นทุกข์ ส่วนไอ้คนที่มันหลอกให้ความหวังเรานี่แม่มยิ้มระรื่น จีบคนต่อไปหน้าตาเฉย

นี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่เรามาโพสให้สาวๆได้รู้กันค่ะ

เค้าว่า "คนเก่งเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง ส่วนคนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น ส่วนคนโง่คือคนที่ไม่รู้จักเรียนรู้อะไรเลย"

เรามาเป็นคนฉลาดกันนะคะ

happy new year ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 21:49:25

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 21:48:08

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 21:47:00

ขอบคุณ เจ้าของกระทู้อีกครั้งค่ะ ขอบคุณจากทู้นู้นไปแล้ว
เราเคยเจอผู้ชายแบบนี้มาแล้ว
และพลาดไปชอบมันเขาซะด้วย...
แต่ก็ดีค่ะถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เรารู้จักผู้ชายมากขึ้น
และโชคดีที่ว่าเรารู้จักสันดานคนนั้นเร็วกว่าที่คิด
ไม่ต้องรอให้ถลำลึกมากไปกว่านี้
มาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้รายละเอียดที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย

เราเป็นประเภทเจ็บแล้วจำฝังใจค่ะ...
ดังนั้นถ้าใครจะว่าเราเลือกมากเรื่องผู้ชายเราก็ยอมรับค่ะ
ในการเลือกผู้ชายดีๆซักคนมาเป็นพ่อของลูก
มันไม่ใช่อยากจะคว้าใครมาก็คว้า
เรากลัวเจอแบบที่เคยเจอและกลัวจะเจอแบบเพื่อน จขกท ด้วย

ผู้ชายมากมายเหมือนฝูงลิงก็จริง
แต่ใช่ว่าฝูงลิงจะเป็นลิงที่ดีทุกตัวก็หาไม่
ยอมขึ้นคานไปจนวันตาย
ดีกว่าโดนผู้ชายเลวๆหลอกให้รักแล้วกลับทำเราชอกช้ำระกำใจ

ไม่ต้องแปลกใจหรอกทำไมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงดีๆหลายคน
ยอมเป็นโสด...ไม่คิดจะคบหาใคร
หรือไม่ก็ทำไมผู้หญิงถึงเลือกที่จะชอบผู้หญิงด้วยกัน

ประชากรผู้ชายมีก็น้อยเต็มที
เป็นเกย์ เป็นตุ๊ด ก็เยอะมาก...
ไอ้ที่เข้าท่าเข้าทางหน่อยก็มีเมียไปหมดแล้ว
ไม่ก็ไม่รู้ไปซุกอยู่มุมไหนของโลก?หาไม่เจอ
ร่อนกระด้งออกมาที่เห็นตามท้องถนนก็อิหรอบเดียวกันหมด
ไม่โรคจิต ก็เจ้าชู้....และอื่นๆ

มันไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอกค่ะที่ชอบผู้ชายเลว

จากที่อ่านมา...

เราก็ว่าผู้ชายเองก็เช่นกันค่ะผู้หญิงดีๆไม่เห็นว่าจะชอบเหมือนกัน

นอกจากไม่ชอบแล้วยังทำให้เธอพวกนั้นเจ็บปวดอีกตะหาก

แม้ว่าเธอเหล่านั้นจะยอมเลิกราแต่โดยดี

แต่ใช่ว่าเธอเหล่านั้นจะไม่เจ็บปวดนะคะ

จากคุณ : นารีพินิจ
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:14:27


อ่านไปเพื่อน จขกท.เหมือนพวก 18 มงกุฏยังไงก็ไม่รู้ เหมือนหลอกให้สาวๆรัก (แถมได้กินฟรีอีกด้วย) แต่ต่างกันตรงที่ว่าก่อนที่มันจะไปแสดงความจริงใจแบบหลอกๆให้กับสาวๆแต่ละราย มันคงต้องหลอกตัวมันเองก่อนว่าสิ่งที่มันทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ผมมีรุ่นพี่อยู่คน คล้ายๆเพื่อน จขกท.แตกต่างกันในรายละเอียดคือ

1. sport กว่า
2. พี่เขาก็ประเภทปากกัดตีนถีบเหมือนกัน แต่ตอนนี้แกก้าวหน้าในหน้าที่การงานมีตำแหน่งใหญ่โตและตำแหน่งที่จะก้าวต่อไปอีก (แกเป็นคนทำงานเก่ง)
2. คนที่อยู่ในองค์กร บริษัทเดียวกัน แกจะไม่จีบ ต่อให้สวยแค่ไหนมาทอดสะพานให้แกก็ไม่สน ยิ่งถ้าอยู่ในสายงานบังคับบัญชาเดียวกัน แกบอกเลยว่าเป็นกฏต้องห้าม จะเสียการปกครอง
3.คนที่เลิกล้างกันไป ก็ยังให้เกียรติเขาเสมอ ไม่มากินในที่ลับ แล้วมาไขในที่แจ้ง
4.คนที่แกคบแต่ละคนพร้อมกัน บ้านจะต้องไม่อยู่ใน zone เดียวกัน พูดง่ายๆคือ ถ้าคนที่ 1 อยู่รามอินทรา คนที่ 2 นี่ต้องแถวพระประแดง
5.ก่อนที่เข้าขั้นเทพ ต้องละในบางอย่าง mail จดหมาย รูปถ่าย รูปคู่ ข้อความใน sms อ่านแล้วดูแล้วต้องทำลายทิ้ง ถึงแม้จะชอบแค่ไหน ห้ามพกติดตัวใส่กระเป๋า (ใครพกยังถือว่าเป็นพวกสมัครเล่น)
6.ถ้าแกไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น ห้างชั้นนำ(พารากอน) ที่อาจจะถูกจับได้จากคนที่รู้จัก (มันจะถึงกัน) แกจะเอาไม้กันหมาไปด้วย

รุ่นพี่เราเพื่อนๆที่ office ใครๆก็นึกว่าเป็นเกย์ เพราะยังไม่แต่งงานและไม่เคยมีใครได้เห็นแฟนแก แต่หารู้ไม่พี่เขานะเข้าข่ายพวก metrosexsual ชอบดูแลตนเอง และก็เก่งด้าน IT+Business หาตัวจับยาก

จากคุณ : ปีศาจValkyrie
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 08:17:06


" ผู้หญิงส่วนใหญ่ ที่โดนหลอก
เพราะ คิดว่าตัวเองแน่ เก่ง เจ๋ง

อ่านคนออก ดูคนขาด มั่นใจสุดๆ

ความเห็นคนอื่น ที่ไม่ตรงกับ ใจตัวเองน่ะ
ใช้ไม่ได้ มองไม่ออก หรือ เข้าใจผิด ทั้งนั้นแหละ

สุดท้าย
ก็ เข้าทาง อ่ะนะ "

อันนี้เข้าตัวเองกับเคสล่าสุด เลยอะคะ
ทุกคนเตือนแต่ไม่เชื่อ อยากลอง ก็เด็กมันไร้เดียงสาสุด สุด 555+
เลยโดนซะ เต็มรัก

ตอนนี้ เราอยากเลิก
ก็โทรไปบอกแฟนใหม่ มันว่า กรุณาดูแลดอในอุปการะหน่อยนะ
รู้สึกว่าจะมาเพ่นพ่านแถวนี้ บ่อยไปแระ
ซึ่งไม่คิดว่า ยังไม่ได้ผล
มันก็แหล จนผญ เชื่อว่าเราไปยุ่งกับเค้าก่อน
เฮ่อ..โง่ จริงๆ ผญ อย่างเรา..

แถมยังเพิ่มเบอร์โทร อีกเบอร์เพื่อเอาไว้ติดต่อเรา หรือคนอื่นๆ

เฮ่อ ตรูจะภูมิใจ หรือ กลุ้มใจกะอีนี้ต่อดีนะ

ถ้ามันไม่เจ้าชู้ :-)นะ มันน่ารักสุด สุดเลยละ เซง

จากคุณ : little lemon
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:56:39


ความคิดเห็นที่ 124

เข้าใจแล้ว



จขกท และสาวที่ หนุ่มคนนี้จีบ เป็นดั่งเช่น " เพชร "
คือ สวย...
ภายนอกดูแข็งแกร่งดื้อรั้น....
แต่โปร่งใส จนไม่รู้จักป้องกันตนเอง....

ทำให้ คนแบบนี้เข้ามาในชีวิตได้ง่ายๆ

โดยส่วนตัว เพื่อนเจ้าชู้ของนายมิ้วๆ มีเยอะมาก ทั้ง
หญิงชาย ส่วนมากลีลาแล้วแต่บุคคล

เนื่องจากผมอกหักบ่อย มันก็แนะนำกันหลายแบบ บางอันดูขัดๆ กันเยอะ

โดยส่วนตัวไม่เจ้าชู้ แต่ อยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ความรัก เพราะ
คนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ การเข้ากับผู้คนได้เป็นความฝันของมิ้วๆ
เลยทีเดียว (พูดตรงๆ อยากเป็นคนมีเสน่ห์)

ดูๆ แล้ว ผู้ชายคนนั้นสำหรับมิ้วๆ มิ้วว่า ไม่ขั้นเทพ เคยเห็นที่ขั้นเทพมาแล้วจริงๆ ตัวเป็นๆ ไม่หล่อ ไม่มีเงิน ไม่ใช่คนหัวดี... มันลุยๆ ไม่ได้จีบดะด้วย...

เราสรุปกันว่า ที่เขาจีบหญิงได้เยอะ เพราะ กล้า และ บุคลิกภาพดี...
พูดจาดี ฉลาดตอบ เอาใจคนเป็น

ขอบคุณสำหรับ แง่คิดเรื่องนี้ครับ

จากคุณ : มิ๊วๆ แมวพันปี
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:57:39

ได้ความรู้ ความคิดอะไรใหม่ๆเยอะดี อิอิ
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ^^

เสริมนิดนึง ..
เพื่อนเราใช่ว่าจะไม่สปอร์ท ไม่เลี้ยงเลยนา .. มันก็มีเลี้ยงบ้าง ในกรณีเช่น รุ่นน้องที่คุยเอ็มกันมาตลอด นานๆ จะเจอกันที หรือไม่ก็มีคนทำอะไรให้ มันก็จะเลี้ยงเป็นการตอบแทน .. แต่ถ้าสาวไหนหวังจะหลอกกินมันละก็ ยากกกกส์

เพราะตั้งแต่คุยกันเริ่มแรกมันจะออกตัวเอี๊ยดดดดดดดด เลยค่ะ ว่ามันจนม๊ากก
มันชอบบอกว่า มันน่ะรวยอยู่อย่างเดียว ก็คือ "รวยแต่เขือ" (กรี๊ดดด อายยยนะเนี่ย เก็ทกันรึเปล่า)

ระหว่างคุยมันก็จะมีแย้บเป็นครั้งคราว ว่าอยู่แบบนี้ต้องประหยัด ต้องส่งเงินให้พ่อกับแม่ต่างจังหวัดที่ไม่ได้เลี้ยงมันมาด้วย
(เป็นคนดีมะ) และต้องเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวอีก วันๆกินแต่มาม่ากะปลากระป๋อง อะไรประมาณนี้

อะแหม พูดมาซะขนาดนี้แล้ว เวลาไปไหนมาไหน สาวๆที่ไหนจะกล้าให้เลี้ยง ใช่มั้ยคะ

แต่สมมุติว่า ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วมันออกตังไปก่อน ถ้าเราทำเนียนๆไป มันก็ไม่ทวงนะ แต่มันจะคิดในใจประมาณว่า ..
" ไม่ไหวผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์หลอกแด๊กตรูนะเนี่ย "
ดังนั้นสาวคนนี้สำหรับคนนี้อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้กินข้าวด้วยกันค่ะ


คุณ ปีศาจValkyrie
เพื่อนเราก็ทำงานอยู่แผนก IT เหมือนกันแฮะ อนาคตถ้ามีตังหน่อยอาจจะเป็นอย่างเพื่อนคุณก็ได้นะ อิอิ

คุณ มิ๊วๆ แมวพันปี
ผิดไปนิดนึงค่ะ เราไม่ได้สวยอะ ไปถามใครร้อยละ 99 ก็ต้องตอบว่าเราไม่สวย ออกจะบ้านๆ มากๆ (ถ้าเทียบกับแต่ละคนที่มันจีบนะ) แต่ที่มันมาหาเรานี่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อาจจะเพราะนิสัยเราก็เป็นแบบกลุ่มเป้าหมายมันนั่นแหละ ข้างนอกดูเข้มแข็ง เหมือนจะเก่ง แต่จริงๆข้างในยังอ่อนอยู่อีกเยอะ มันอาจจะแค่อยากเพิ่มผู้หญิงในสต๊อกก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ..

กล้า และ บุคลิกภาพดี...
พูดจาดี ฉลาดตอบ เอาใจคนเป็น

-ผู้ชายเจ้าชู้ เป็นผู้ที่ขาดความมั่นใจในด้านความรัก
ไม่ค่อยยอมแต่งงาน และเจ้าชู้ไปเรื่อยๆ

-ต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองมีค่า โดยการโปรยเสน่ห์ให้คนมาสนใจเรื่อยๆ

-รักใครจริงๆไม่เป็น

-มีจิตใจเป็นเด็กที่ไม่โต ขาดวุฒิภาวะ

-และหลงตัวเองมากๆ

คนเจ้าชู้ อาจมาด้วยมาดที่ดูมั่นใจสุดๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
เค้าอาจไม่รักตัวเอง และไม่เคยรักใคร
แค่อยากรู้และตื่นเต้นเมื่อลุ้นว่าจะมีคนมารักเขาไหม

เขาจึงสร้างความ ตื่นเต้น โดยหว่านเสน่ห์ให้คนมารัก มาหลง มาหวง
คนเจ้าชู้เป็นคนที่เชื่อถือไม่ค่อยได้ หากใครรักคนเจ้าชู้
ก็ต้องระวังให้ดีค่ะ เพราะไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า
สิ่งที่คุณได้รับอยู่นั้น มันออกมาจากใจเค้า หรือแค่ละครลวง...

จากคุณ : เค็มอย่างเกลือ
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:11:27




เพื่อนเรามีทุกข้อเลยละ เหอๆ

แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 17:46:34

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 17:44:15



ขอบคุณทุกความเห็นค่า
กลับมาตอบ อิอิ

คุณ bleu chat ,Jc2000
จริงๆก็เข้าใจได้ค่ะ ว่าคนที่ทำแบบนี้อาจจะตั้งใจจีบจริง มีแค่คนเดียว จริงจังแค่คนเดียวก็ได้ (ตายละวา เราไปตัดอนาคตของผู้ชายดีๆหลายๆคนที่มีสเต็ปการจีบสาวแบบนี้รึเปล่านี่ .. ^^'' )

แต่แหม .. คุณผู้ชายที่ตั้งใจจริง จะจีบสาวแบบหมายมั่นปั้นมือ จะเอาคนนี้มาเป็นแม่ของลูกเนี่ย เชื่อว่า สาวๆเค้ารับรู้ได้แน่นอนค่ะ ที่สำคัญคือ คุณต้องให้การกระทำกับคำพูดของคุณสัมพันธ์กันเท่านั้นเอง อย่าให้ผู้หญิงรู้สึกแคลงใจในความคลุมเครือ ไม่ชัดเจนของคุณ แล้ววันเวลาจะช่วยพิสูจน์ให้รู้เองค่ะ

..
.

สำหรับคุณ Destination Unknown
แฮ่ ถ้าจะให้อธิบายวิธีการทำใจของเรานี่ยาวเลย สงสัยต้องขึ้นกระทู้ใหม่ ..

อิอิ จริงๆแล้วการทำใจได้ของเรามันประกอบไปด้วยหลายอย่างค่ะ
.. อย่างแรกเลยได้รับคำแนะนำที่ดีจากพี่ที่ทำงานคนนึง (ผู้หญิง) ให้คิดซะว่าบุญของเค้ามีไม่ถึงเรา เนื่องจากเค้าทำบาปมาเยอะ เค้าเลยไม่มีบุญพอที่จะได้เราเป็นคู่ชีวิต (เอ้อ ฟังแล้วเราดูดีขึ้นแฮะ)

อย่างที่สอง .. หลังจากเศร้ามาพอควร ถามตัวเองว่าทำแบบนี้แล้วเราได้อะไรมั้ยเนี่ย ร้องไห้ไปขนาดไหน เสียใจไปเท่าไหร่ เค้าก็ไม่มารับรู้ แล้วดูไอ้คนที่เค้าทำเราเจ็บสิ เดินไปเดินมายิ้มระรื่น แถมยังไปจีบคนอื่นต่อได้อีก เหมือนชีวิตมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย..เท่ากับว่าเราเสียสุขภาพจิตอยู่ฝ่ายเดียว ..แล้วแว่บนึงความคิดแบบนี้ก็โผล่มา เฮ้ยย..มันไม่แฟร์นี่หว่า ทำไมเราต้องมาเสียใจ จิตตกกับไอ้คนที่เค้าไม่เห็นค่าเราด้วยวะ กลายเป็นว่าผู้ต้องหาลอยนวล แล้วผู้เสียหายแบบเราเป็นคนโดนลงโทษซะงั้น??

คิดได้แบบนี้เราเลยหายเศร้าเลย ทิ้งชั้นไปแล้วแกจะต้องเสียใจ คิดแค่นี้ละ อิอิ

ตอนนี้เราลดหุ่น ดูแลตัวเองมากขึ้น หัดทำอาหาร และมีแผนจะเรียนโทเร็วๆนีั้ เราตั้งใจจะทำตัวให้ดีขึ้น จะให้มันได้รู้สึกบ้างว่า ทิ้งคนดีๆอย่างเราไปแล้วมันจะต้องเสียดาย ฮ่าๆๆ ในเมื่อเค้าปฏิเสธเรา ให้คิดซะว่า เราคงยังไม่ดีพอ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเพื่อให้เหมาะสมกับเค้าหรอกค่ะ

แต่เพื่อเอาไว้ตบหน้าเค้า เวลาที่เค้าไม่เหลือใครก็เท่านั้นเอง
ให้เค้าเห็นว่าเราอยู่ได้ แถมสบายดีมากๆด้วย ดีกว่าที่มีเค้าอยู่ซะอีก.. มันเป็นความสะใจเล็กๆค่ะ

ว่าไปนั่น นี่แค่ความคิดค่ะ จะทำได้รึเปล่านี่ต้องดูกันต่อไป
บางที..ต่อให้ทำดีแค่ไหนมันอาจจะไม่รู้สึก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอย่างน้อยทำแล้วเราก็รู้สึกดีกับตัวเองค่ะ สู้ๆ