ผู้ชายทุกคนบนโลก เจ้าชู้ทุกคน! ความเจ้าชู้คือสัญชาตญาณดิบของผู้ชายที่สั่งสมมาตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดมาบนโลก มันคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์
แต่ผุ้ชายที่จัดการกับความเจ้าชู้ของตัวเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้หญิงตาดำๆ เพศแม่
ขอประณาม! การกระทำดังกล่าว

“ของภายนอกที่คุณเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ขอให้ใช้สติรู้จักแยกแยะ และใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อจะได้เข้าให้ถึงภายในของความรู้สึกนึกคิดในจิตใจที่แท้จริงของคน ที่คุณคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา และจงอย่าปล่อยตัวเผลอใจให้ว่องไวนัก โปรดอย่าลืมว่าของมีค่านั้นหากได้มาง่ายๆแล้วใครจะเห็นค่าของสิ่งนั้น”



ไลฟ์เทคติก ตอน คัมภีจีบสาว

หลังจากเป็นแฟน project ของท่าน Depe และได้รู้ว่าท่าน Depe ศึกษาจาก DJ Bible
ผมเลยไปหามาให้อ่านกันนะครับ เผื่อจะเป็นเทพอย่างท่าน Depe กันมั่ง เลยเอามาแชร์กันครับ

อันนี้เป็นคำภีย์จีบสาวฉบับภาษาไทยที่มีคนนำมาเรียบเรียงเป็นหนังสือ
http://www.upload-thai.com/download.php?id=ea7ec3029ba6d0a2003433121205b2d8
ให้ลองเข้าไปโหลดอ่านดูก่อนนะครับ

แต่ที่ผมหาเจอในเว็บคิดว่าคงเป็น Original ของฝรั่ง
http://www.sosuave.com/bible/bible.htm

ผมลองเทียบดูมีหลายหัวข้อตรงกับในหนังสือแต่ในเว็บของฝรั่งเขาจะละเอียดกว่า
ผมเลยแปลมาให้อ่านกัน ถ้าท่านไหนภาษาอังกฤษแข็งแรงอยู่แล้วก็อ่านได้ตามลิงค์ด้านบนเลยครับ
ผมเองก็แปลตามที่ตัวเองเข้าใจ ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องต้องขออภัยครับ

เริ่มเลยดีกว่า
*********************************************************

กำจัดความดินรน (Pook - Kill that desperation! [must read])


การเป็นดอนฮวนไม่ใช่ผลรวมของวิธีการอันราบรื่นแต่มันคือมุมมองของคุณแก่โลกและผู้หญิง
ทุกคนสามารถจดจำเทคนิดได้แต่น้อยคนนักที่สามารถเปลี่ยนวิธีคิดของพวกเขาได้
แบบแรกผู้หญิงจะดูถูกคนที่จีบเธอโดยแค่จดจำจากเทคนิด
แต่แบบหลังถ้าคุณเปลี่ยนวิธีคิดผู้หญิงจะแย่งกันเพื่อให้ได้คุณ

ดอนฮวนเป็นสถานะทางจิตใจไม่ใช่รายการของวิธีการและทริค

ในท้ายที่สุดพวกเราดิ้นรนตามความปรารถนา
เราจะไม่ต้องการเทคนิคหรือคำตอบถ้าเราไม่ปราถนาผู้หญิงซักคนหรือหลายคน (พวกเรามักใฝ่สูงกันเนอะ)
พวกเราทุกคนต้องการผู้หญิงซักคนหรือหลายคนแต่ความปรารถนาและความรู้สึกจะแสดง
ลักษณะความดิ้นรนที่อยู่ในตัวเราออกไป

ที่ที่ผมทำงาน ผมถามผู้หญิงว่าทำไมพวกเธอพบเพื่อนร่วมงานมีความดิ้นรนมากเกินไป
และนี่คือคำตอบของพวกเธอ
- ให้ความสำคัญกับผู้หญิงเสมอ
- โทรมาตลอดเวลา (และโทรทันทีเมื่อได้เบอร์ หรือโทรกลับทันที)
- ฉวยทุกโอกาสเพื่อให้ได้พูดกับเธอ (และพูดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง)
- ว่างตลอด
- ไม่เคยที่จะเดินจากไป (ไม่เคยที่จะไม่เห็นด้วย หรือ อ้อนวอนเสมอ)
- และอื่นๆ


จากข้อความด้านบนพวกเรารู้สึกกันแบบไหน นั่นเป็นผู้ชายที่ยกผู้หญิงไว้บนหิ้งแทนที่จะเป็นตัวเขาเอง

ลองจินตนาการถ้าผู้หญิงทำแบบเดียวกันกับคุณทุกอย่างตามด้านบน จินตนาการดูว่าถ้าผู้หญิงหลงไหลในตัวคุณ
โทรหาคุณเสมอ และให้เวลาว่างของเธอกับคุณเสมอ ความสนใจที่คุณมีต่อผู้หญิงคนนี้จะหายไปอย่างรวดเร็ว
ทำไมนะเหรอ เพราะในความคิดของคุณ คุณคิดแค่สองอย่าง "ไม่มีใครต้องการเธอ" และ "ถ้าผมสามารถทำให้เธอหลงไหลได้
ผมก็รู้ว่าผมสามารถทำให้ผู้หญิงที่ดีกว่ามาสนใจผม" ความดิ้นรนที่มากเกินไปของเธอทำให้คุณหมดอารมณ์
และมันก็เป็นแบบเดียวกันกับผู้หญิงด้วยเช่นกัน

ผู้หญิงไม่ถูกดึงดูดโดยผู้ชายที่มีแต่ความดิ้นรน ก่อนหน้านี้ผมได้บอกเพื่อนร่วมงานของผมแบบนี้และเขาตอบว่า
"ก็ดี นั่นมันเป็นอย่างที่ผมเป็น" ในที่สุดเขาจะได้รู้ว่าตัวหารร่วมเพียงอย่างเดียวก็คือหายนะและความเจ็บปวดที่เขาจะได้รับ
ดังนั้นถ้าทุกคนได้บอกว่าคุณนั้นดิ้นรนจนเกินไปก็ให้คิดว่าคุณเป็นแบบนั้นจริงๆ

มันมีคีย์ที่จะกำจัดความดิ้นรนให้หมดไป ไม่มีวิธีง่ายๆที่จะกำจัดความดิ้นรน มันไม่ใช่การแต่งตัวของคุณ
ไม่ใช่การพูดของคุณ หรือสถานทีที่คุณจะไปเดท แต่มันคือวิธีการคิดของคุณต่างหาก

คีย์ของการกำจัดความดิ้นรน (และดึงดูดกรงเล็บของสาวๆ) คือ แนวคิด และ ความเชื่อ ว่าคุณเป็นเสือผู้หญิง

ผู้ชายที่ดิ้นรนจะไม่ทำแบบนี้ เขาจะเป็นผู้หญิงเป็นรางวัลสำหรับเขาแทนที่จะเป็นตัวเขาเอง
เขาจะเห็นผู้หญิงนั้นเย้ายวนใจแทนที่จะเป็นตัวเขาเอง พวกเขาจะอ้อนวอนและกลายเป็น Nice Guy
(และ Nice Guy ไม่ได้ฟันหญิง)

ถ้าคุณปฏิบัติกับผู้หญิงดั่งทองคำล้ำค่า เธอจะเชื่อว่าเธอเป็นทองคำนั้นจริงๆ และเมื่อเธอเชื่อแบบนั้น
เธอก็จะทิ้งคุณเพราะว่าคุณทำให้เธอรู้สึกว่าเธอดีกว่าคุณ และเธอต้องการแทนที่คุณด้วยคนที่ดีกว่า
เพราะคุณเป็นเหตุให้เธอเชื่อว่าคุณไม่มีค่าพอสำหรับความยอดเยี่ยมของเธอ

ถ้าเราคิดว่าเราจะได้ปี้ใครที่ดีกว่า เราก็จะได้ เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง
สิ่งสุดท้ายที่เราอยากได้คือการอยู่กับของตาย ทั้งๆที่เราสามารถได้สิ่งที่ดีกว่า
(ดังนั้น ความท้าทาย จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเกมจีบสาว)

บทเรียน: อย่ามีเหตุให้เธอคิดว่าเธอนั้นดีกว่า คุณต่างหากคือทอง เธอควรที่จะตื่นเต้นกับการแค่มีโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ๆคุณ

ก้าวแรกที่จะกลายเป็นเจ้าชายทรงเสน่ห์ที่สาวๆทุกคนฝันถึง คือการคิดว่าคุณเป็นเจ้าชายคนนั้นจริงๆ

เมื่อคุณเชื่อว่าคุณเป็นเจ้าชาย คุณเป็นเสือผู้หญิง ความดิ้นรนที่คุณแสดงออกมาก็จะหมดไป
และออร่าในการดึงดูดสาวๆก็จะอยู่รอบตัวคุณแทน รวมวีธีคิดแบบนี้เข้ากับเทคนิคดอนฮวนที่คุณรู้
แล้วสาวๆจะไม่สามารถต่อต้านคุณได้อีก

เรามาดูรูปแบบของการดิ้นรนกันอีกครั้ง:

- ให้ความสำคัญกับผู้หญิงเสมอ
ตอนนี้คุณเป็นเจ้าชาย คุณไม่ได้มีเวลามาสนใจสาวๆ เจ้าชายนั้นดูใจดี มีความสุขกับตัวตนของเขา ยิ้มแย้มแจ่มใส
นอกจากนี้คุณมีเรื่องอื่นต้องทำ เวลาของเจ้าชายนั้นมีค่ามาก และสาวๆต้องแย่งกันเพื่อดึงดูดความสนใจของคุณ
และคุณก็จะไม่ให้พวกเธอง่ายๆ


- โทรมาตลอดเวลา (และโทรทันทีเมื่อได้เบอร์ หรือโทรกลับทันที)
เสือผู้หญิงจะไม่โทรไปหาตลอดเวลาเพราะมีเบอร์อื่นอีกเป็นตันที่ต้องโทร
และเสือผู้หญิงจะไม่สนใจเจาะจงแค่ผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง แน่นอนที่สุดผู้หญิงทุกคนต้องสนใจเขา

- ฉวยทุกโอกาสเพื่อให้ได้พูดกับเธอ (และพูดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเอง)
ทำไมเจ้าชายต้องบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาให้กับสาวๆด้วยละ ไม่มีทาง สาวๆต่างหากละที่ต้องแสดงตัวตนของเธอเพื่อดึงดูดเขา
เพราะคุณคือทรัพยากรที่หายาก เจ้าชายจะเปิดเผยตัวตนของเขาเพื่อเป็นรางวัลเพียงเท่านั้น
พวกสาวๆชอบความลึกลับและชอบเห็นมันค่อยๆเปิดเผยเหมือนการปลอกเปลือกผลไม้
ค่อยๆรู้จักเจ้าชายไปทีละน้อยๆ

- ว่างตลอด
เสือผู้หญิงจะยุ่งมากเพราะเขามีสาวๆโคตรเยอะ เธอต้องต่อสู้เพื่อแย่งเวลาของคุณไม่ใช่ด้วยวิธีการอื่น

- ไม่เคยที่จะเดินจากไป (ไม่เคยที่จะไม่เห็นด้วย หรือ อ้อนวอนเสมอ)
เจ้าชายทรงเสน่ห์จะไม่ยอมรับการกระทำใดๆที่ไม่เคารพจากพวกสาวๆ
ถ้ามีผู้หญิงไม่เคารพนับถือเขา เขาจะเดินจากไป เจ้าชายรู้ว่าพวกเธอต้องการอยู่กับเขา
และเขาสามารถเขี่ยพวกเธอทิ้งได้ตลอดเวลา

ตอนนี้ผมรู้ว่าพวกคุณคิดอะไรอยู่ "ท่านเทพครับ ผมไม่สามารถแสดงเป็นเจ้าชายทรงเสน่ห์หรือเสือผู้หญิงได้
ผมไม่ได้มีผู้หญิงเป็นตันไล่จีบผม" ตรงนี้แสดงถึงเหตุและผล สมมุติว่าคุณเป็นเสือผู้หญิง และ ให้คิดว่าคุณเป็น
และเมื่อคุณคิดแบบนั้นคุณก็จะกลายเป็นเสือผู้หญิง มันจะกลายเป็นคำพูดที่เติมเต็มตัวคุณให้กลายเป็นความจริงตามนั้น
ให้งานอดิเรกของคุณนั้นมีค่ามากกว่าผู้หญิง (หรือให้งานอดิเรกของคุณเปรียบเสมือนผู้หญิงคนอื่น)
เมื่อคุณคิดว่าคุณเป็นเสือผู้หญิง คุณจะแสดงออกแบบนั้น แล้วสาวๆก็จะรู้ว่าคุณเป็น

ผู้หญิงรักลักษณะบางอย่างของผู้ชาย การคิดว่าคุณเป็นเสือผู้หญิงทำให้คุณแสดงลักษณะเหล่านี้ออกมาโดยธรรมชาติ
โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย

-ภาพลักษณ์ที่ดี
คุณไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของคุณแต่คุณสามารถเปลี่ยนวิธีปฏิบัติต่อรูปร่างหน้าตาของคุณ
เจ้าชายทรงเสน่ห์จะใส่เสื้อยืดโกโรโกโสอย่างนั้นเหรอ เสือผู้หญิงจะเดินโดยกลับหัวหรืออย่างไร
ไม่มีทาง คุณจะต้องสวมเสื้อผ้าดีๆ และเดินด้วยความภูมิใจ เพราะคุณภูมิใจในตัวตนของคุณ (ความถึง ตามนิยามของท่าน Depe)
และคุณจะกลายเป็นคนที่ดีที่สุด ดังนั้นปฏิบัติต่อตัวคุณเองให้ดี

-อารมณ์ขัน
สาวๆรักอารมณ์ขัน เจ้าชายทรงเสน่ห์และเสือผู้หญิงนั้นเป็นคนสนุกสนาน เพราะพวกเขารู้ว่า
พวกเขามีอารมณ์ขัน พวกเขาไม่กังวลแบบนี้ "แย่แล้ว เธอน่ารักมาก ผมจะจีบเธอได้ยังไง"
พวกเขาสมมุติว่า พวกเธอจะถูกดึงดูดและสนุกไปด้วยในขณะเดียวกัน
ดังนั้นอย่าอาย ให้บุคลิกภายในของคุณฉายแสงออกมา
เมื่อคุณคิดว่าคุณคือเสือผู้หญิง สิ่งเหล่านี้จะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเพราะคุณไม่มีอะไรต้องกลัว

-ดูมีอำนาจเหนือกว่า
คุณเป็นผู้ชาย คุณต้องเป็นคนควบคุม ผู้ชายที่ดิ้นรนจะพยายามทุกทางเพื่อชนะใจสาวๆ(และแน่นอนล้มเหลว)
แต่เจ้าชายทรงเสน่ห์และเสือผู้หญิงนั้นจะทำให้ผู้หญิงล้มทั้งยืน เมื่อคุณคิดว่าคุณเป็นทรัพยากรที่หายาก
คุณได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องน่าขำที่จะสร้างความสัมพันธ์หรือจีบสาวเหมือนกับเดินไปโดยใส่เปลือกหุ้ม
คุณเป็นคนกำหนดกฏและคุณเป็นรางวัลที่แต่งแย่งชิง

ดูตามพวกนิยายรักน้ำเน่าต่างๆ ผู้หญิงชอบอยู่ต่อหน้าผู้ชาย ไม่ใช่เด็กชาย ไม่ใช่ท่อนไม้ และแน่นอนยิ่งไม่ใช่ Nice Guy

การมีอำนาจเหนือแสดงถึงความมั่นใจด้วยเช่นกัน อย่าพูดเสียงอ่อย พูดอย่างเข้มแข็งและแสดงออกอย่างเข้มแข็ง
คุณคิดเหรอเจ้าชายทรงเสน่ห์จะกังวลกับการทำอะไรผิดพลาด ไม่แน่นอน แล้วทำไมคุณต้องกังวลละ

ผมรู้ๆ ผมได้ยินพวกคุณพูดว่า "แต่ผมต้องกังวลกับความผิดพลาดและอื่นๆที่ผมต้องเรียนรู้อีกเยอะแยะ"

นี่เป็นเรื่องดี ในการพูดปรกติของคนเรานั้น เมื่อคุณกลัวคุณจะพูดตะกุกตะกักไม่รู้จะออกเสียงยังไง
คนส่วนใหญ่จะพูดเสียงอ่อยเพราะกลัวคำตำหนิ นี่เป็นเรื่องที่โง่มาก คุณต้องพูดออกมาดังๆ
ให้ผมย้ำอีกครั้ง คุณต้องพูดออกมาดังๆ ถ้าคุณผิดมันจะกลายเป็นเรื่องที่ถูก
การยอมรับความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ดีเสมอและไม่ควรจะไปกลัว

ซึ่งมันสามารถเอามาประยุกกับการจีบสาวได้ อย่าจีบด้วยความลังเลและความอาย
จีบด้วยความถึงและจำไว้ยิ่งคุณเสี่ยงมากเท่าไรจริงๆแล้วคุณไม่ได้เสี่ยงอะไรเลย

-ทะเยอทะยาน
เมื่อคุณคิดว่าคุณเป็นเสือผู้หญิง คุณรู้ว่าสาวๆไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตคุณ
เสือผู้หญิงรู้ว่าเขาจะได้ผู้หญิงทุกคนที่เขาอยากจะได้ เมื่อคุณรู้สึกดีกับชีวิตของคุณ
คุณเลิกที่จะกลัวความสำเร็จและใช้ชีวิตของคุณเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณหมายดวงจันทร์
แม้คุณพลาด คุณยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว

และสุดท้ายนี้ บ่อยเหลือเกินที่ผู้ชายคิดอยากได้แฟนซักคน เพื่อให้ชีวิตของเขาสมบูรณ์
ผลที่ตามมาคือผู้ชายพวกนี้จะแสดงความดิ้นรน ความสำเร็จเกิดขึ้นจากจิตใจแล้วค่อยมาเป็นสิ่งรอบตัว
ไม่ใช่ด้วยวิธีการอื่น

***********************************************************
ยังมีต่อนะครับ ถ้ามีประโยชน์กับทุกท่านผมจะพยายามแปลมาลงกระทู้นี้เรื่อยๆ
หรือท่านไหนภาษาอังกฤษแข็งแรงจะช่วยแปลด้วยก็ได้ครับ

แม้มีเทคนิคดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ฝึกฝนมันก็คงไร้ความหมายครับ
ยังไงพวกเรามาร่วมกันศึกษาและฝึกฝนจะได้มีการบ้านดีๆมาส่งกันเยอะๆนะครับ

ไลฟ์เทคติก ตอน เกี่ยวสาวในคืนเดียว

ตอนที่ 1

หลังจากได้อ่านกระทู้ของคุณ OBOY ก็ได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะแบ่งปันวิธีเกี่ยวสาวให้ได้ในคืนเดียว

โดยผมขอออกตัวก่อนเลยว่า เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้นนะ เป็นปาสบกางของเสือที่โดนถอดเขี้ยวแล้ว

หากเทพ หรือ ก๊อตท่านใดอยากเสริม เชิญเลยนะครับ

เอาหล่ะ เรามาเริ่มกันเลยนะครับ ....

1. เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ... สิ่งสำคัญอย่างแรกสุดเลยคือตัวคุณเองครับ ไม่ว่าคุณจะหล่อเลิศ

หรือ หน้าตาธรรมดา ธรรมดาดาดๆ บ้านๆ ......คุณมีสิทธิ์ครับ แต่ว่าคุณจะทำอย่างไรให้ตัวเองเป็นที่สนใจจาก

สาวๆ เพราะคุณต้องท่องไว้ในใจเสมอนะครับว่ามีอีกหลายคนที่ทำแบบคุณ ..ดังนั้นเราจะทำอย่างไรหล่ะ

- แต่งตัวให้ดูดี ...จากผลการวิจัยของสถาบัน อีเมลด้า มากอส ของฟิลิปปินส์ได้ทำการสำรวจออก

มาแล้วว่าการแต่งตัวที่มีสิทธิ์เกี่ยวสาวได้มากสุดคือ Smart Casual คือไม่เป็นหนุ่มออฟฟิศเกินไป แต่ก็ไม่

เซอร์มาก ...เสื้อผ้า หน้าผม ดูแลให้ดี ..

- เลือกทำเลให้เหมาะสม ...จากประสบการณ์ของผมแล้ว บริเวณที่เป็น..ทางเสือผ่าน.. นั่นก็คือทาง

ไปห้องน้ำหญิง เพราะบรรดากวางน้อย..ย่อมต้องมาหาน้ำกินริมลำธาร ดังนั้นเสือควรจะอยู่บริเวณนี้ ..เคยดู

Animal Planet ไหมครับ เสือมันจะชอบอยู่ริมลำธาร เพราะมันรู้ว่ายังไงเหยื่อก็ต้องมากินน้ำ ......ดังนั้น

บริเวณนี้เองที่เราจะใช้ความหื่นโดยชอบธรรม ตามหลักการห่วงโซ่อาหาร ทำการสำรวจเหยื่อที่ผ่านไปมา


ตอนที่ 2

2. ประเมินสถานการณ์ ..หลังจากเล็งจนได้สาวที่คุณคิดว่าจะเป็น เจ้าสาวของคุณในคืนนี้แล้ว ลองสำรวจดูสิว่าเธอมากับใคร ...หากมีผู้ชายอยู่ในกลุ่มด้วย ขอแนะนำให้เลือกคนใหม่ เพราะจากประสบการณ์แล้วมีสิทธิ์ ตายคาทีน ขณะเยาว์วัยสูง หรือเล็งแล้วผู้ชายในกลุ่มเป็นเพศพิเศษ ก็สามารถที่จะตลุยต่อไปได้ และกลุ่มของกวางน้อยที่ดีที่สุดควรมีขนาด 2-4 คน เท่านั้น เป็นจำนวนหวังผล โอกาสพลาดน้อยที่สุด ....และยิ่งสองคน...เป็นจำนวนที่หวังผลสูงเพราะมักเป็น สาวที่อกหักรักคุดพาเพื่อนมาปรับทุกข์กินเหล้า
หรือเป็นสาวกลางคืนที่เที่ยวบ่อยอยู่แล้ว

3. หาจังหวะเข้าทำ .....เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากที่สุดครับ ...มันเป็นเรื่อง โอกาส จังหวะ เวลา สัญชาตญาณ
และ หลายๆอย่างประกอบกัน เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ครับ เพราะหากเข้าทำผิดจังหวะแล้ว คุณอาจจะพลาดจากเป้าหมายของคุณไปตลอดกาล ....ดังนั้นนี่เป็นเพียงหลักการเริ่มต้น เมื่อคุณฝึกฝนจนช่ำชองทุกอย่างจะทำโดยธรรมชาติเองครับ...

- สิ่งแรกที่คุณต้องเติมเต็มในใจคุณก่อนก็คือ ความมั่นใจ ....ท่องไว้ กรูหล่อ กรูเลิศ กรูเจ๋ง เอ้าพกมันไว้ให้เต็มกระเป๋าเตรียมสู้ศึก เพราะถ้าคุณมัวแต่ยึกยัก กลัว ไม่กล้า ...ก็ยืนเจ๋วเhee่ยว รอกาเทยซะดีกว่าครับ
- ต่อมา...สิ่งต่อไปที่ควรทำคือ ตามองตา ...แต่อย่าสำแดงความหื่นออกมานะครับ แต่เป็นเหมือนการบอกว่าเราสนใจเธอนะ ..เราชอบเธอนะ เรารักเธอนะ เรามาปรี้กันนะ กร้ากกกส์ ไม่ใช่นะครับ ... จ้องไว้แต่พองาม แล้วหันดูอย่างอื่นบ้าง แล้วก็ไปมองเธอต่อ ..ต่อไปนี้ผมจะบอกเคล็ดลับอย่างนึงที่สำคัญให้คุณทราบนะครับ ..เมื่อตาของคุณได้ประสานกันแล้ว จงอย่ามองผู้หญิงคนอื่นในจังหว
- ต่อมาเมื่อคุณทั้งสองได้ประสายตากันในระดับหนึ่ง จงสังเกตุครับว่าตัวผู้หญิงมีจุดเด่นที่น่าสนใจตรงไหน ถ้าเธอเต้นเก่งจงแสดงความชื่นชมที่เธอเต้นเก่งให้เธอรู้..โดยสายตา หรือยกนิ้ว แต่ถ้าเธอนั่งเศร้า เมายับตับเป็ด ...จงส่งสายตาแสดงความเห็นใจอาจจะยกแก้วเหล้าซักที เพื่อตรวจสอบครับว่าเธอสนใจเราไหม ...
ถ้าเธอยกแก้วเหล้าตอบ...ก็โอเค แต่ถ้าเธอไม่ก็รอครับ รอจังหวะอย่างที่ผมบอก ...แต่ถ้าเธอยกเมื่อไหร่ละก็เข้าทางครับ ....ส่งสัญญาณมือให้เธอรู้ว่าคุณขอเข้าไปหาเธอโดยการชี้ที่ตัวคุณเอง แล้วชี้ไปที่เธอว่าขอเข้าไปหานะ ...สำหรับผมน้อยนักที่จะปฏิเสธครับ ..อย่างที่บอกครับ จังหวะนี้ต้องค่อยๆครับ เพราะถ้าเมื่อคุณฝ่ากำแพงไปหาเธอได้ โอกาสในคืนนี้ของคุณก็เริ่มเปิดออกแล้วครับ ...
-อีกอย่างที่ลืมบอกไปคือ เมื่อคุณได้เป้าหมายแล้ว ถ้าโต๊ะอยู่ห่างจากคุณมาก ควรหาจุดเฝ้าที่ดีๆ ที่เธอจะเห็นคุณชัดๆ แต่อย่าเข้าไปใกล้เกินไปนะครับ เดี๋ยวกวางตื่น ถ้าโต๊ะอยู่ใกล้กันก็ลุยอย่างที่ผมบอกได้เลยครับ

- เอาหล่ะ ต่อมา ....เมื่อคุณได้รับคำเชิญให้ไปที่โต๊ะแล้ว จงส่งยิ้มและเดินเข้าไปบอกชื่อของคุณกับเธอก่อนครับ..แล้วค่อยถามชื่อเธอ และอย่าลืม ถ้าเธอมากันสองคน จงคุยกับเพื่อนของเธอด้วย ตัวแปรสำคัญนะครับ...เพราะถ้าเพื่อนของเธอไม่ชอบคุณเมื่อไหร่คุณอดแน่ครับ และถ้ามากันหลายคนก็แสดงความเป็นมิตรกับทุกคนครับ

4. สื่อสารตรงใจ
ต่อกันเลยนะครับ ...เมื่อคุณอยู่ที่โต๊ะเธอแล้ว คุณอย่ายืนบ้าใบ้เป็นท่อนไม้ ...เพราะบางคนเวลาได้อยู่ใกล้หญิงสาวที่หมายปองมักจะประหม่า ไม่รู้จะคุยอะไร ..นี่แหละครับมาตกม้าตายกันตรงนี้ก็เยอะ เพราะฉะนั้นอย่าไปกลัวครับ ...ยืดอกพกถุงเข้าไป คุยกะเธอครับ อย่าไปให้ความสำคัญกะเธอมาก คิดไว้ในใจเธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งก็เท่านั้น ...เก็บความประหม่าและความกลัวเอาไว้ครับ แล้วชัยชนะจะเป็นของคุณ

สิ่งสำคัญต่อมาก็คือ เรื่องที่จะคุยครับ ...จงให้ความสำคัญกับเธอเยอะๆครับ... จากประสบการณ์ผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่ มั่นใจ มีอารมณ์ขัน และ อบอุ่น และผู้หญิงจะไม่ชอบผู้ชาย ขี้เก๊ก โอ้อวด ..เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเล่าให้เธอฟังหรอกครับ ว่า พ่อเป็นใคร คุณมีรถกี่คัน เรียนจบที่ไหน ถ้าเธอไม่ได้ถามก็ไม่ต้องบอกเธอครับ ..จงถามเรื่องราวของเธอเยอะๆและจงคุยในสิ่งที่เธอสนใจครับ เช่นเธอชอบ ฮิบฮอบก็แกล้งถามว่านี่เพลงใคร ..หรือถ้าเธอชอบเที่ยวก็คุยว่าชอบเที่ยวที่ไหน แล้วอย่าลืมถามนะครับว่าอยู่ดึกไหม..เพราะคุณจะได้รู้ว่าเธอจะอยู่นานเท่า ไหร่ ...อย่าถามนะครับว่ากลับกี่โมง มันดูมากเกิน ควรถามครับว่า อยู่ดึกไหม ...

5. แสดงน้ำใจ ...เมื่อคุณไปคุยกะเธอแล้วเธอมีน้ำใจชงเหล้าให้คุณ ..เมื่อถึงเวลามิกซ์หมด จงสั่งมิกซ์ให้เธอครับ รับรองว่าคุณจะได้ใจของเธอมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ ...



ในช่วงตั้งแต่ข้อ 3- 5 ควรอยู่ในเวลาประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น จงอย่าอยู่นานเกินไปมิฉะนั้นเธออาจจะรำคาญคุณก็ได้ ในช่วงนี้ นิ่ง สุขุม ค่อยๆปล่อยความร่าเริง และอารมณ์ขันออกมา เพื่อให้เธอรู้สึกว่าคุยกะคุณ อยู่กะคุณแล้วสนุก ระวังอย่าตลก ลามก นะครับ จงแสดงความฉลาดของคุณออกมาผ่านทางอารมณ์ขัน นี่และครับ โค-ต-ร ยากเลย แล้วเธอจะไม่รุ้สึกว่าคุณ อวดตัวในขณะที่คุณ Show ข้อดีของคุณอยู่..
เมื่อถึงเวลาแล้วต้องถอยฉากก่อนครับ ...แต่อ๊ะๆ อย่าลืม แลกเบอร์กันให้ได้นะครับ เพราะว่าเกิดเธอหลุดมือไปในวันนี้ วันหน้าคุณก็ยังตามเธอออกมาได้.

เอาหล่ะครับเรามาสรุปกันก่อนนะครับว่าเราพูดเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง

1. เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
2. ประเมินสถานการณ์
3. หาจังหวะเข้าทำ
4. สื่อสารตรงใจ
5. แสดงน้ำใจ

เดี๋ยวเราจะมาต่อเรื่องการขอเบอร์สาวยังไงไม่ให้น่าเกลียดครับ

ขอบคุณทุกความเห็นที่ติดตามอ่านครับ ...อยากบอกกับทุกท่านอย่างนึงว่า ทุกคนมีของดีอยู่กับตัว เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะหล่อ หรือ ไม่หล่อ ไม่สำคัญ ..แต่สิ่งสำคัญ คือ บุคลิกและการแสดงออก นี่แหละครับเป็นตัววัดว่าใครจะเป็นผู้เข้าเส้นชัย ..
6. ขอรหัสตอกเสาเข็ม .....
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าในส่วนของการขอเบอร์สาว อย่างที่บอกครับ เมื่อเราเข้ามาในระดับนึงแล้ว เราจำเป็นต้องถอยเพื่อเว้นระยะครับ มิฉะนั้นจะจู่โจมเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องขอเบอร์เอาไว้กันเหนียวเผื่อเธอหายไป หรือกลับไปแล้ว ...
การขอเบอร์ที่ดีทีสุด คือ การขอที่ไม่ทำให้คนขอรู้สึกว่าถูกขอ งงไหมครับ ถ้าเราคุยกะเธอสักพักหนึ่ง และดูเวลาว่าสมควรกลับโต๊ะ ถ้าเราบอกว่าเออ ขอเบอร์หน่อยครับ ...
มันก้จะดูตรงไปตรงมาไป ผมจะใช้วิธีนี้ครับ

" คุยกะคุณสนุกมากเลย เดี๋ยวเรากลับโต๊ะก่อนนะ เด๋วเรากลัวเพื่อนเราจะไปแจ้งความอะ"
" ไมอะ"
" ก็ตามหาคนหายอะดิ"
" กร๊ากส์ " เพี๊ยะ ๆๆๆๆๆๆ
" เดี๋ยวก่อน"
" คืนนี้เธออยากฝันดีมะ"
" ไมเหรอ"
ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา
" เอาเบอร์มาดิ"
" เอาไปทำรายย"
" เอามาน่าไม่โทรไปฟ้องแฟนเธอหรอก ..เด๋วทำไรให้ดู "
จังหวะนั้นเอง เธอก็จะเอาเบอร์ให้คุณ ....
จงจัดการพิมพ์ข้อความแล้วส่งไปหาเธอว่า ....
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ..เธอน่ารักดีอะ คืนนี้ขออนุญาติโทรไป Say Goodnight นะ"
แล้วกด Send ....

"ได้รับยัง
" บ้า" เพี๊ยะๆๆๆๆ
" นี่เบอร์ เรา นะ Memไว้ด้วย ไปหล่ะ ถ้ามาได้เด๋วมาใหม่นะ "

แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมเบอร์ของเธอ ....ตอนนี้รับรองได้ว่าเธอจะจำคุณได้ในระดับนึงแล้วหล่ะแต่คุณๆ ก็อาจจะสามารถสร้างสรรค์โดยวิธีของคุณเองได้ อย่าลืมนะครับ อย่าทำให้เขารู้สึกว่าถูกขอ..

7. รวบหัวรวบหาง
หลังจากนั้นคุณ ควรจะเว้นระยะไปซัก 10 -20 นาที แต่อย่าเดินไปไกลนะครับ ไม่งั้น ม.ค.ป.ด.
หลังจากนั้นค่อยเดินกลับมา สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยครับ คือ
- ตรวจดู Mixer ของโต๊ะเธอว่ามีอะไรพร่องไปหรือเปล่า ...ถ้าหมด..สั่งมาเพิ่มเลยครับ แต่ผมอยากจะบอกนิดนึงนะครับ พยายามกะเวลากลับมาดีๆ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณจะเผด็จศึก...ว่าคุณจะได้เธอกลับบ้านหรือเปล่า ช่วงนี้แหละสำคัญ โดยผมจะนับเอา 45 นาทีก่อนผับปิดนี่แหละว่าเป็น 45 นาที อันตราย เพราะว่าช่วงนี้คุณต้องมาประจำการที่โต๊ะเธอยาวครับ ดังนั้นการช่วยเธอออกค่ามิกซ์ ก็จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้คุณยืนอยู่ที่โต๊ะเธอได้โดยไม่น่าเกลียด และกันท่าผู้ชายคนอื่นไปในตัว ...แต่ผมไม่แนะนำให้ออกค่าเหล้ามันจะเป็นการลงทุนที่มากเกินไป แล้วเดี๋ยวเธอจะเคยตัว เก็บตังไว้ไปสุกี้ดีกว่าครับ
- ตรวจเช็คปลายทาง ...เช็คให้ดีนะครับว่าเธอนอนไหน บ้านเพื่อน หอ บ้านตัวเอง เพื่อคุณจะได้รู้ว่าคุณจะเอาอย่างไร และจะได้รับมือกับสถานการณ์นั้นๆถูก
- เก็บมือ ....ถูกต้องละคับ เก็บมือ..ในช่วงนี้ ดนตรีอาจจะเร้าขึ้น สนุกขึ้น เธออาจจะ กล้าโดนตัวคุณมากขึ้น ต้องระวังอย่าจับเธอครับ ไม่ว่าเธอจะรุกร้ำมายังไงขอให้นิ่งเฉยไว้ครับ เธออาจจะเต้นเอาก้นมาโดนเราบ้าง เราอาจอยากเอามือไปจับ ดูมๆของเธอ ก็ขอให้อดทนไว้ครับ ..
- และยังไงก็อย่าลืมเพื่อนของเธอด้วยหล่ะ....อย่าให้เพื่อนของเธอต้องเหงา สนุกกับเพื่อนของเธอด้วย ให้เพื่อนของเธอรู้สึกดีกับคุณด้วย ..เธออาจจะช่วยคุณในตอนท้ายก็ได้นะ
- เมื่อทุกอย่างเหมาะสมจงสนุกให้เต็มที่ ....รอเวลาไฟเปิด....
ขอโทษนะครับ ที่หายไปนาน ...เอาหล่ะครับเรามาต่อกันนะครับ ...ทุกอย่างที่ผ่านมาจะสรุปรวบยอดกับช่วงเวลาของการสร้างอารมณ์ช่วงสุดท้าย นี่แหละครับ...ตามประสบการณ์ของผม One Night Standing ที่เคยได้มา ..สุราคือองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่จะได้เธอมาครอบครอง แต่ไม่ใช่การมอมเหล้านะครับ เพราะผมมีกฏหล็กอย่างนึงคือ จะไม่มีอะไรกับผู้หญิงที่เมามายไม่ได้สติ ..อารมณ์กึ่มๆนี่แหละที่สร้างอารมณ์เถิดเทิงมานักต่อนัก แต่..สำหรับผม ในหัวข้อนี้ขอฟีลแบบกึ่มๆ นัวๆก็พอ และตัวคุณเองก็ต้องห้ามเมาเป็นอันขาดไม่เช่นนั้นคุมจะคุมสติไม่อยู่เพื่อวาง แผนการณ์ต่อไป

7. กินกลางตลอดตัว
ในช่วงเวลาของการเปิดไฟและเปิดเพลงช้าเป็นช่วงเวลาแห่งความจริง...ถ้าคุณ ได้เธอมาอยู่บนรถคุณได้อะไรๆก็ไม่ยาก ในกรณีนี้คนมีรถส่วนตัวอาจจะได้เปรียบบ้าง แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะผมก็เคยเกี่ยวสาวขึ้นแท๊กซี่มาแล้ว แต่ความได้เปรียบคงอยู่ที่คนมีรถนะครับ .. ถ้าเธอมีใจให้กับคุณ อะไรๆคงไม่ยาก แต่ถ้าเธอเป็นประเภทเสือ เขี้ยวลากดินเหมือนกัน เราจะทำอย่างไรหล่ะให้เธอยอมมาขึ้นรถของเราให้ได้...เพื่อนของเธอไงหล่ะครับ ...ถ้าคุณเอาเพื่อนของเธอขึ้นรถได้ ..ยังไงเธอก็ต้อขึ้นรถไปกับคุณแน่ๆ คราวนี้คุณจะเปลี่ยนแผน หรือจะทำอะไรต่อก็แล้วแต่ ...คราวนี้เราจะพูดยังไงดีหล่ะ

จงถามไปที่เพื่อนของเธอก่อน
"กลับกันยังไงหล่ะ ไปส่งไหม และเธออยู่แถวไหน "
" xxxx"
หลังจากนั้นถามคนที่คุณหมายปองไว้
" เธออยู่แถวไหน"
"xxxx"
" อ๊ะ อยู่แถวบ้านเราเลย งั้นเราไปส่งเธอก่อน แล้วคอยไปส่งเพื่อนเธอต่อ"
เป็นไงครับดูดีไหม ...ดูไม่เจาะจงที่เป้าหมายจนเกินไป ..อย่างที่บอกครับ เอาเธอขึ้นรถมาให้ได้ก่อน แล้ว อย่างอื่นค่อยว่ากัน ..ถ้าเกิดพวกเธอทั้งสองคนไม่ใจร้ายเกินไป พอขึ้นรถแล้ว ส่วนใหญที่ผมเจอจะสับเส้นทางให้ผมไปส่งเพื่อนเธอก่อนเสมอ ...แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการสับเปลี่ยนเส้นทาง คงต้องใช้วิชามารแล้วครับ

เดี๋ยวมาว่าต่อด้วยวิชามาร และ บรรยากาศภายในรถครับ
สวัสดีตอนเช้าครับ... ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ...แต่ผมเองไม่อาจหาญกล้าเป็นเทพ หรือ เสือ หรอกครับ ..คิดซะว่าผมเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังนะครับ ..ผมอ่านวีรกรรมของเทพ และ ก๊อตแต่ละท่านแล้ว ผมเองยังคิดซะว่าตัวเองเป็นแค่แมวน้อยเชื่องๆเท่านั้นเองครับ ....

เอาหล่ะครับทุกท่านคงได้เห็นบันได 7 ขั้นแล้วนะครับ หลายท่านอาจจะคิดว่าแม่ม ทำไมมันเยอะอย่างนี้ฟระ ...แต่อยากบอกว่าลองดูความแล้วท่านจะรู้ว่ามันลุ้น มันเสียวดี เหมือนกัน
1. เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
2. ประเมินสถานการณ์
3. หาจังหวะเข้าทำ
4. สื่อสารตรงใจ
5. แสดงน้ำใจ
6. รวบหัวรวบหาง
7. กินกลางตลอดตัว

อยากจะบอกว่าเราเดินทางมาใกล้ความจริงแล้วนะครับ...ตอนนี้ผมขอเสริมเรื่องบรรยากาศในรถสักนิดครับ ...
- กลิ่น..กลิ่นทีดีย่อมช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย และเกิดอารมณ์ได้เหมือนกัน
- เตรียมรถให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ
- ยืดอกพกถุงติดรถไว้ เผื่อเกิดอะไรบนรถ
- เพลง....เพลงที่เปิดถ้ามีเพื่อนของเธอขึ้นมาด้วย ให้เปิดเพลง Hip Hop กลางๆ
เพื่อให้พวกเขา ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น สมองจะ Concentrate กับเสียงเพลงมาก
กว่าสิ่งที่คุณสองคนคุยกัน แต่ถ้าเธอยอมขึ้นรถมากะคุณ 2 คน เพลงช้าโดนๆโลด
ครับ

8. แกะก้างที่ขวางคอ
ตอนนี้พวกเธอขึ้นมาอยู่บนรถคุณแล้วนะครับ เอาหล่ะถ้าก้างมีแค่ชิ้นเดียวก็อาจจะง่ายที่จะเอาออกไป แต่ถ้าเพื่อนดันขึ้นรถคุณเยอะเนี่ยจงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสครับ ...ไปส่งเธอให้หมดครับ อาจจะนานหน่อย แต่อย่างน้อยเธอก็มีเวลาอยู่กับคุณเยอะขึ้นใช่ไหมครับ ..บอกเงื่อนไขไปเลยว่าต้องไปส่งเป็นเพื่อนกัน แล้วบังคับให้เลี้ยงข้าวด้วย
" เหอะ มาเป็นโขลงเลย"
" พี่ ..พวกหนูไม่ใช่ช้างนะ"
" แต่วันนี้ฉันจะเป็นแท๊กซี่ให้พวกเธอเอง ..บอกเพื่อนหนูด้วยนะให้ดูแลพี่ด้วย
ถ้าน้ำมันหมดจะได้ให้เขาเข็น"
" กร๊ากส์...เพี๊ยะๆๆๆ ..เหอะน้ำมันหมด ก็เข็นเองแล้วกัน"
" ให้เพื่อนหนูเลี้ยงข้าวพี่ด้วยนะ..ต้องเอาตังไปเติมน้ำมัน"
" โหเดี๋ยวพวกหนูลงก็ได้ "
" อ่า ล้อเล่ง ...เอาเป็นว่าให้เพื่อนหนูช่วยดูแลส่งพี่กลับบ้าน"
" อ้าวแล้วพี่ไม่ไปส่งหนูเหรอ"
" โตแล้วกลับเองละกัน"

อันนี้เป็นตัวอย่างบนสนทนาพาเพลินที่มีเพื่อนขอเธออยู่บนรถเยอะๆ พยายามสร้างความสนุกๆ สนานเข้าไว้ เมื่อถึงเวลาตัดหวาน...จะได้สัมฤทธิ์ผล...

แต่ถ้าเพื่อนเธออยู่บนรถแค่คนเดียวหล่ะ เราจะทำอย่างไรที่จะให้เธอสลับเส้นทางกับเป้าหมายของเราเราได้ ...วิชามารที่ผมทำบ่อยและง่ายนิดเดียว ...พาหลงไงครับ
ผมจะพยายามขับรถ หลงไปแถวบ้านของเพื่อนเธอ ซึ่งในที่นี้อย่างที่บอกครับ เปิดเพลงสนุกๆ และคุยเรื่องอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในเส้นทาง

"อ้าวพี่ นี่มันทางไปบ้านเพื่อนหนูนะ"
"อ่า ขับเพลิน เฉยเลย"
"อย่ามาฟอร์มเลย..พี่ "
"ป่าวๆ เดี๋ยวพี่วนกลับไปส่งหนูก่อนแล้วกัน"
"พี่จะวนไปมาให้มันเปลืองน้ำมันทำไม ไปส่งเพื่อนหนูก่อนก็ได้"
ผมก็แกล้งคุยกับเพื่อนเขาว่า
"อ้าว แล้วหนูจะปล่อยให้พี่อยู่กะเขา 2 คน เหรอ ไม่กัดแน่นะ อุตส่าห์จะไปส่งเขา
ก่อน "
" 5555 เพื่อนหนูมันไม่กัดหรอกพี่ แต่ระวังมันลากพี่ไปข่มขืนนะ "
" ไม่เอา กัวๆๆๆๆ"
" บอกเพื่อนหนูด้วยอย่าทำอะไรพี่นะ"

ด้วยวิธีการนี้ เราก็จะสลัด ก ข ค . ไปได้ ...ลองดูนะครับ วิธีมีหลายวิธี แล้วแต่ท่านจะปรับเปลี่ยนใช้ แต่สิ่งที่สำคัณคือ เก็บอาการ และแสดงอาการเหมือนไม่อยากไปส่งเป้าหมายของคุณ โดยใช้เป็นคำพูดหยอกๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกหล่อนซะ ..เดี๋ยวเรามาต่อกันครับ

อันนี้ เป็นของท่านใดผมก็จะไม่ได้ แต่ว่าเนื้อหาดี ผมก็เลยเก็บไว้เหมือนกัน ครับลองอ่านดู

******************* Note
เมื่อก่อนเที่ยว ก็ทำตาม step ประมาณนี้เลย

เพียงแต่พลิกแพลงตามสถานการณ์

เช่น ให้เก็บ spare ไว้ตอนเล็ง สาวเผื่อ primary target fail ก็จะได้มีเป้าหมายต่อไป

สิ่งที่อยากจะเพิ่มเติมก่อนออกล่า จากประสบการณ์ก็มีดังนี้

1 แนะว่าตอนกลางคืนให้ออกมาขับรถเล่นบ่อยๆ เพื่อจะได้ชินเส้นทาง และจะได้รู้ว่า
ตรงไหนมีด่านตรวจแอลกอฮอร์ จะได้เลี่ยงเส้นทางได้ (ระวังทางโค้งให้ดี เพราะ เจ้าหน้าที่ชอบตั้งด่าน แถวๆทางโค้ง)

2 สิ่งที่สำคัญที่สุด ร้อยละ ร้อย ผู้หญิง ไม่ว่าจะอาชีพอะไร หน้าตายังไง ชอบผู้ชายที่
สุภาพ, ตลก, อบอุ่น, อยู่ด้วยแล้วพวกเธอจะมีความสุข ถ้าทำได้ดังนี้พวกเธอก็พร้อมที่จะอ้าขารอรับ

3 อีกข้อนะครับ สำหรับใครที่รู้ตัวว่ากลิ่นตัวแรง ให้อาบน้ำและอัดน้ำหอมไปด้วย และควรเป็นน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ อย่าให้พวกเธอฉุนจนเสียอารมณ์

*************************

ที่ไม่ลงทีเดียวหมด เพราะไม่ได้อรรถรส อ่านแล้วจะไม่มันส์กันอะครับ ขออภัยทุกท่านด้วย
ต้องขอโทษทุกท่านนะครับที่หายไปนาน ...พอดีภารกิจรัดตัวไปนิดนึงครับ เอาหล่ะตอนนี้เรามาทบทวนลำดับขั้นกันครับว่าเราต้องทำอะไรบ้าง
1. เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
2. ประเมินสถานการณ์
3. หาจังหวะเข้าทำ
4. สื่อสารตรงใจ
5. แสดงน้ำใจ
6. รวบหัวรวบหาง (อยู่ดูแลเธอ พร้อมกันท่าผู้ชายคนอื่น)
7. กินกลางตลอดตัว (เอาเธอขึ้นรถกลับบ้านให้ได้)
8. แกะก้างที่ขวางคอ
เอาหล่ะครับ ตอนนี้เสี้ยนหนามชีวิตของเราก็ได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว ก็ถึงเวลาสำคัญแล้วครับ แต่ก่อนที่จะถึงหัวข้อสุดท้ายของกระทู้มหากาพย์นี้ ...ผมขอไขข้อข้องใจในบางคำศัพท์นะครับ

ตัดหวาน ..คำในพจนานุกรมฉบับ กรูนี่แหละบัญญัติ ได้กล่าวถึงความหมายของคำนี้ว่า สภาพของการจงใจตัดอารมณ์ เพื่อกระชากให้คนที่เราสื่อสารอยู่เข้าสู่ภาวะอารมณ์หวานอย่างไม่ทันตั้ง ตัว...

9. จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเรา...
เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันสักทีครับ... ตอนนี้คุณอยู่ในรถกับเธอสองคนแล้ว ไม่มีใครมีแต่เสียงเพลงและสองเรา ผมขอนำเข้าสู่โหมดตัดหวาน ..เปลี่ยนอารมณ์เพลงทันที ในช่วงเวลานี้ขอให้จัดเพลงอกหัก เศร้า รักคุด ตุ๊ดเมิน มาเต็มที่ เพื่อเข้าสู่การเร้าอารมณ์ ...และจงสรุปจุดหมายที่จะไปให้แน่ชัด จำได้ไหมครับที่ผมบอกให้ถามว่าผู้หญิงของเราว่าเธอพักอยู่กับใคร...ถ้าเธอ พักอยู่ที่ห้องคนเดียว จงไปที่ห้องเธอ ถ้าเธอมีเพื่อนพักด้วย และคุณมีห้อง พาเธอไปที่ห้องคุณให้ได้ ถ้าเธอนอนบ้าน คุณก็ไม่มีห้องจงไปที่โรงแรม.... แต่เราจะทำอย่างไรครับที่จะไปที่ๆเราต้องการได้ผมมีวิธีครับ...
ถ้าเธออยู่คนเดียว ผมจะบอกว่าผมอยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับน้อง แล้วผมจะแกล้งโทรหาเพื่อนแล้วเพื่อนไม่อยู่เปิดห้องไม่ได้

" เออ ลืมโทรหาเพื่อนเลยไม่รู้ว่ามันหลับไปยังวันนี้ลืมเอากุญแจห้องมาด้วย "
" แม่มไม่รับสายตายเลย ทำไงดีเนี่ย"
"............."
" เดี๋ยวพี่ไปส่งหนูก่อน ค่อยคิดอีกที"
".............."

ส่วนใหญ่เธอจะบอกอย่างนี้ครับ
" พี่ไปรอห้องหนูก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับ " ..ถ้าเธอบอกอย่างนี้ เข้าทาง จบเกมครับ

แต่ถ้ามันยากกว่านั้น ถ้าเธอไม่พูดอะไร ผมจะบอกให้เธอรอเป็นเพื่อน ในรถตรงที่หอเธอนี่แหละครับหามุมสงบหน่อย เงียบๆ เปลี่ยวๆ แล้วจอดรถครับ อย่าจอดไกลนะครับ ยิ่งเธออยู่ใกล้บ้านเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่กับเรามากเท่านั้น...ผมจะบอกว่าในรถก็ทำอะไร ได้หลายอย่างนะครับ

คราวนี้ถ้าเธออยู่บ้านหล่ะหรือมีเพื่อนในห้องหล่ะจะทำอย่างไร ก็พาไปที่โรงแรมสิครับ ..แล้วเราจะแวะได้อย่างไรหล่ะ ..โดยส่วนใหญ่ผมจะแกล้งหลับในครับ ..

"พี่ไหวปะเนี่ย"
"ไหว"
" ดูเหมือนไม่ไหวเลยนะ"
" ไหว ..พี่เป็นอย่างนี้ประจำแหละ ชน 3 ทีก็หลับในทั้งนั้น"
"......."
" จอดหลับก่อนไหม"
" ไม่อะ พี่ไม่ชอบนอนในรถ..เปิดโรงแรมแถวนี้นอนแล้วกัน"
" ถ้าหนูไม่สะดวกกลับแท๊กซี่ก่อนได้นะ เดี๋ยวพี่จำทะเบียนไว้เผื่อมันพาหนูไปข่มขืน"
ตอนนี้เธอต้องชั่งใจละครับว่าจะเอายังไง แต่ส่วนใหญจะอยู่ต่อ เพราะเธอคิดว่ผมปลอดภัย เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะผมเก็บมือเวลาอยู่กับเธอตลอดไงครับ เวลาที่เธอต้องชั่งใจ เธอก็จะประมวลสิ่งที่คุณทำทั้งคืน และเธอก็ดูแล้วว่าคุณเป็นผู้ชายที่สุภาพและไม่เอาเปรียบผู้หญิง
" ไม่เอาหล่ะ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อนพี่แล้วกัน"
สำหรับผม ผมจะหลีกเลี่ยงม่านรูด แต่ผมจะไปใช้ บ้านประทุม ซึ่งเป็น เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์
อยู่รัชดา ซอย 30 คืนละ 900 บาท แนะนำห้องเลขคู่ เพราะวิวดีกว่าและเสียงไม่ดังตอนเช้า..

ตอนนี้สรุปได้แล้วใช่ไหม ว่าเราจะจบที่ไหน...

ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นห้องเธอ หรือ ห้องคุณ รถ หรือโรงแรม ..คุณก็อยู่กับเธอสองคนแล้ว

ถ้าเธอมีใจให้คุณ ...อะไรๆก็ไม่ใช่เรื่องยาก... แต่บางครั้งผู้หญิงไม่รู้ใจตัวเองหรอก ว่าบางทีคืนนี้จริงๆแล้วฉันก็อยากขย้ำผู้ชายที่อยู่ข้างๆเหมือนกัน..บางที Sex แบบ One Night Stand ก็สร้างความหรรษาให้กับฉันเช่นเดียวกัน....ในช่วงเวลานี้คุณต้องดึงด้านมืด ในใจเธอออกมาให้ได้ ด้านของความต้องการ Sex แบบชั่วคราว ..แล้วจบกันไป มนุษย์ทุกคนมีความต้องการไม่ว่าชายหญิง แต่การแสดงความรู้สึกทางเพศของฝ่ายหญิงนั้นอยู่ลึกเกินกว่าของผู้ชายนัก ในช่วงเวลานี้เราต้องดึงความรู้สึกนั้นของเธอออกมาให้ได้ ให้เธอระเบิดมันออกมา แล้วมองคุณเป็นเหยื่อแล้วขย้ำคุณซะ ..ช่วงนี้เองสิ่งที่เราทำมาตลอดทั้งคืนจะเป็นตัวช่วยเรา ความรู้สึกไว้ใจที่คุณเป็นผู้ชายที่สุภาพ ไม่เอาเปรียบ ..(ผู้หญิงเขาละเอียด ช่างสังเกตุนะครับ ) จะช่วยได้มาก.....สิ่งที่สำคัญมากต่อมาคืออะไรรู้ไหมครับ ...คุยกับเธอก่อน ...ก่อนที่ผมจะได้พวกเธอผมคุยกับเธอเยอะมาก เปิดใจกับเธอ ..เมื่อผู้ชายผู้หญิง นอนใกล้กัน คุยกัน ขอให้รู้ไว้เลยว่าผู้หญิงเองจะมีอารมณ์มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว.. ดังนั้นผมจะคุยกับเธอเรื่องของตัวเอง เรื่องต่างๆ แล้วเปิดใจกับเธอเรื่อง Sex ..ให้เธอเล่าเรื่องของเธอ แกล้งสัมผัสเธอมากขึ้น..มากขึ้น ค่อยๆดึงอารมณ์เธอออกมา คุยไปลองจับมือเธอไปดูปฏิกิริยาว่าเธอเป็นยังไง สำหรับผมแล้ว ผมจะค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มการสัมผัสมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเธอไม่รู้ตัว และในขณะเดียวกัน คุณต้องแสดงให้เธอเห็นความอบอุ่นของคุณ เมื่อคุณสัมผัสเธอมากขึ้น และมากขึ้น ... ถึงจุดทีคุณจะต้องรุกฆาต...เมื่อคุณอุ่นอารมณ์ของเธอมาในระดับหนึ่ง ถึงเวลาที่คุณจะต้องดึงด้านมืดในใจเธอออกมา คุณต้องทำเหมือนกับอารมณ์ของคุณได้ระเบิดความต้องการในตัวเธอออกมา จงบอกให้เธอรู้ด้วยการกระทำ หอมเธอ กอดเธอแน่นอนเธออาจปัดป้องในระดับนึง แต่ถ้าเธอมีความต้องการด้วยแล้ว ท่าทีของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นตอบสนองคุณ ..แต่ถ้าเธอไม่ เมื่อเธอบอกให้หยุด จงหยุด และขอโทษเธอซะ ... คืนนี้อาจไม่ใช่ของคุณ
แต่พรุ่งนี้เธออาจจะตื่นมาแล้วซัดคุณก็ได้ แต่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ คุณได้โอกาสนั้นแล้ว จงทำให้ดีที่สุด พาเธอขึ้นสวรรค์ ...และสนุกกับ SEX คืนเดียว ที่ได้มาอย่างแสนลำบาก .......


บทสรุป ...สำหรับผมแล้ว การเกี่ยวสาวในคืนเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ว่าผมจะประสบความสำเร็จทุกคน ได้ก็เยอะ พลาดก็เยอะ แต่สิ่งที่ผมชอบคือ ความตื่นเต้น ความท้าทาย ...แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาตามมา เช่นเราชอบเขา เขาไม่ชอบเรา ..เขามาติดเราแต่เราดันมีแฟนแล้ว ...บางครั้งเขามีปัญหาเรื่องตังก็มายืมเรา (เป็นผัวเขาแล้วนี่) ..อะไรอีกหลายอย่าง ...ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ และได้มาฟรีๆ



ดังนั้น.. สุกี้ ดีที่สุดครับ

ไลฟ์เทคติก ตอน ไร้ใจ

"ไลฟ์เทคติก : เลิฟอิสฟัค รักอิสเฟค"

..................
ข้อมูลจาก เวบแห่งหนึ่ง
เพื่อการศึกษา และเป็น วัคซีน
เค้าว่า "คนเก่งเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง
ส่วนคนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น
ส่วนคนโง่คือคนที่ไม่รู้จักเรียนรู้อะไรเลย"

เรามาเป็นคนฉลาดกัน
.............

แฮ่มๆ สวัสดี พี่น้อง BLV ทุกท่าน

พบกันอีกครั้งกับรายงานพิเศษ สำหรับสมาชิกใหม่ที่ไม่รู้จักการบ้านแนวนี้

ลักษณะของ Special Report ก็จะเป็นประมาณว่า มาแชร์ไอเดีย ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในแบบ สุมหัวคุยกัน

ดังนั้น การบ้านฉบับนี้ ต้องการความคิดเห็นของพี่น้องชาว BLV เป็นหลัก เพราะฉะนั้นแล้ว ได้โปรดอย่าเอียงอาย

หรือว่าไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ท่านคิดอย่างไร มีไอเดียอะไรดีๆ นำมันออกมาแชร์ครับ

ผมเชื่อว่า ประสบการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ความคิดความอ่านแต่ละคนพัฒนามาได้ไม่เท่ากัน

เพียงหนึ่งความคิดเห็นที่ท่านแชร์ออกมาจากประสบการณ์จริง
อาจจะช่วยใครหลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาที่ท่านเคยผ่านมาแล้วอยู่ก็ได้ครับ
เหตุเกิดจากว่า
เนื่องจากช่วงนี้ ห้องนั่งเล่นของเราชาว BLV ได้กลับกลายแปรสภาพเป็น "ศาลาคนเศร้า" ดังเช่นในอดีตอีกแล้ว (Ha-Ha)
รวมถึงยังลามไปสู่ห้องต่างๆ อย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง



สาเหตุส่วนใหญ่ก็เนื่องมาจาก "ความรัก" หรือ "เรื่องของหัวใจ"
แอบรักแฟนเขา รักเขาแล้วไม่รักตอบ เป็นชู้ชาวบ้านทำไงดี แฟนมีกิ๊ก ไปแย่งแฟนเขามา blah blah blah
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาที่เรามักจะเห็นในคอมเมนท์ เวลาชาว BLV ตอบกันสำหรับกระทู้ถามเรื่องพวกนี้
มักจะพบกันเสมอ กับคำว่า


"ไร้ใจ"

ปัญหาของมันก็คือ การตีความหมายของคำๆนี้น่ะสิ
คำว่าไร้ใจ
เราอาจจะคิดถึง คนที่ไม่เคยคิดถึงคนอื่น คิดแต่ความสุขของตัวเองเท่านั้น
เราอาจจะคิดถึง ภาพผู้หญิงคนนึงที่ร้องไห้เกาะขาผู้ชายที่ำกำลังขนของออกจากห้องของเธอเพราะเลิกกัน แม้เธอจะอ้อนวอนเท่าไหร่เขาก็ไม่สนใจ
และอื่นๆอีกมากมายที่แต่ละคนคิดกับคำๆนี้
วันนี้ เราจะมาแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับคำว่าไร้ใจ รวมถึงวิธีที่พี่น้อง BLV ใช้เวลาเจอปัญหาเรื่องพวกนี้กัน ....
ขอเริ่มจาก ความเห็นของ หนึ่งในสามเทพผู้ก่อตั้ง BLV

ท่าน JTR ครับผม

ขอ quote มาจากกระทู้ "เปราะบาง" ในห้องนั่งเล่นนะครับ ผมอ่านแล้วมันจี๊ดดีจริงๆ

ขณะที่กำลังนั่งดื่มสุรา สีอำพันเพียงคนเดียว
ใต้แสงนีออน
บรรยากาศไม่เป็นใจอย่างที่เคย
เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงตัวน้อย
บรรเลงเข้าถึงก้นลึกในจิตใจ ท่วงทำนองเกี่ยวก้อยพาความรู้สึกของผม
ลอยไปไกลจากจากร่างที่นั่งอยู่ตรงนี้
พาล่องลอยออกไป
ลอยขึ้นไปเบาดุจปุยเมฆ
ไม่สิ ดั่งควันบุหรี่มากกว่า
บางที บางครั้ง การนั่งอยู่คนเดียว ก็อาจจะได้ยินเสียงลมหายใจตัวเองได้
หรือ บางที อาจสัมผัสถึงการมาของเพื่อนต่างภพ
ครั้นหันไปมองข้างกาย ก็พบเพียงขวดเหล้าที่หมดไปแล้วเกือบทั้งขวด
มันอาจจะเพราะ ฤทธิ์ ของมัน
หรือเพราะอะไรก็ตามแต่
สุดท้าย มันมากระทบกับคำ ๆ นี้ ของบทเพลงนี้
เปราะบาง………
มันทำให้นึกนึกเรื่องที่ผ่านมา
หลังจากฟังเพลงนี้หลายรอบ
ผมนั่งถามตัวเองถึงความไร้ใจ
ไร้ใจ คือ ไม่มีความรู้สึกรักหลงเหลืออยู่
ไม่มีหัวใจ
อะไรคือรัก
อะไรคือไม่รัก
การที่เราสร้างระบบไร้หัวใจขึ้นมา
ก็เพราะว่า
เราเจ็บกับคำว่า รัก มามากมายแล้ว
จึงสร้างเกราะคุ้มกัน สร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ เพื่อที่จะไม่ไปรักใครง่ายขึ้น ไม่ชอบใครง่ายขึ้น
หากแต่ การกระทำนั้น ช่วงแรกมันอาจได้ผลดี
สุดท้ายแล้ว
ลงเอยอย่างไรรู้ไหมครับ
การที่เราไม่มีหัวใจ
ไร้ใจ
ไม่อาจรักใคร
ก็ทำให้เรา ไม่เหลือใคร เฉกเช่นเดียวกัน
ฉะนั้น การที่เรามีหัวใจ ไว้รักใครสักคน หรือ บางคนอาจมีหัวใจ
ไว้รักใครหลายคนก็ตามแต่
จงมอบ ความรู้สึกดี ๆ ให้แก้เค้าเถิด
ถึงแม้วันหนึ่งการเดินทางของเราจะลงเอยไม่สวยงาม
ถึงแม้ทุกอย่างจะจบลงด้วยน้ำตา
และ ถึงแม้ มันจะเจ็บปวดมากก็ตาม
แต่เชื่อไหม
ก่อนที่จะรู้สึกเจ็บปวดนั้น
เราต้องผ่านความรู้สึกดี ๆ มาก่อน
ทั้งคนที่ให้ และ คนที่ได้รับ
มันเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่ทำให้ชีวิตเราเบ่งบานชั่วขณะ
รู้ไหมครับ ความรักไม่เคยอยู่กับเราทั้งชีวิต
แต่ความทุก จะจมอยู่กับเราไปตลอด
หัวใจคนเราก็เปราะบาง มาก เราถึงได้สร้างภูมิคุ้มกันที่เรียกว่าความไร้ใจขึ้นมา

“ แล้วชีวิตเมื่อไหร่จะเข้มแข็งพอ ”

เป็นคำสุดท้ายของบทเพลงนี้ ที่คนร้อง บอกกับสื่อว่า
เคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้น ผ่านเรื่องราวมากมายมาแล้ว
แต่สุดท้ายก็มีช่วงเวลาห้วงหนึ่งที่ยังเปราะบาง
แล้วมันคงเป็นแบบนี้ไปจนตาย
อาจจะไม่ตรงทั้งหมดนะครับเนื่องจากจำเค้ามา
แต่ยอมรับว่า โดนใจมากครับ

ภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า ไร้ใจ
เกิดจากคนที่หัวใจอ่อนแออย่างพวกเราที่สร้างมันขึ้นมา
ไร้ใจ เกิดจากความ เปราะบาง

เสียงลมหายใจอ่อน ๆ ของผม
บังเกิดตัวหนังสือที่อาจจะไร้ซึ่งความหมาย
ที่บางจะไปสะกิดใจใครบางคนได้ ก็ขอให้ได้ใช้สติกับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก นะครับ

JTR

-- มาดูกันว่า .... ผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนหนึ่ง เค้ามีวิธีตามหาคนที่ใช่ กันยังไง Part II--

ขอตั้งกระทู้ใหม่นะคะ เนื่องจากของเก่าเริ่มยาว เดี๋ยวมึน
ส่วนใครที่มาใหม่ตามไปอ่านได้เลยค่ะ (ทำลิงค์ไม่เป็นงะ)

http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8707973/F8707973.html#100

ขอบอกไว้ก่อนว่าเพื่อนเราไม่ได้จีบแบบหว่านค่ะ ถ้าคนไหนโดนใจ มันก็จะเก็บไว้ก่อน ดูความเป็นไปได้หลายๆอย่างตามที่เกริ่นมา แล้วถึงจะเริ่มปฏิบัติการ
และครั้งนึง จะมีสาวๆในสายตาคนเดียวบ้าง สองคนบ้าง แต่ไม่เกินสามคน(เพราะมันจะจัดการอะไรยากเกินไป)

ส่วนคนที่ถามมาว่าทำงานที่ไหนคงขอปิดไว้นะคะ (ยังสงสารเพื่อนอยู่ ฮ่าๆ)
เอาเป็นว่าที่หนึ่งในกรุงเทพนี่แหละค่ะ

ในช่วงทำคะแนนนั้น คำพูดแทะโลมต่างๆมากมาย จะถูกประเคนมาเพื่อให้ฝ่ายหญิงรู้สึกมีความสุข และเห็นว่าผู้ชายคนนี้มีมุมที่น่ารักดีแฮะ ต่างกับตอนทำตัวบ้าๆบอๆที่ออฟฟิศนะ ดูเป็นผู้ใหญ่ในบางครั้ง และเป็นเด็กๆในบางคราว ...รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนพิเศษสำหรับเค้า เพราะคิดไปเองว่าเค้าเปิดเผยตัวตนแบบนี้ มุมแบบนี้กับเราคนเดียว(แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เล้ย) มีความสุข สนุกที่คุยด้วย .. พอรู้สึกตัวอีกที ก็กลายเป็นว่า ทุกครั้งที่ออนเอ็มมาต้องเลื่อนหาชื่อเค้าก่อนโดยไม่รู้ตัวไปซะแล้ว ...


ตัวอย่างคำพูดแทะโลมที่มักใช้บ่อยก็เช่น
หญิง.. “ เดี๋ยวเค้าไปอาบน้ำก่อนนะ”
เทพ “อาบด้วยๆ” ..
“ตะเองถูหลังให้ด้วยนะ (อีโมชั่นหน้าแดงๆ เขินๆ)”
หญิง ... (เขินจริง เหอๆๆ)

อาบน้ำเสร็จ ..
เทพ .. “มาแล้วๆ หนาวๆๆๆ”
เทพ .. “มามะ ขอกอดทีสิ ”
หญิง .. (อายค่ะ) “แหวะ ใส่เสื้อผ้ารึยังนี่”
เทพ .. “รอเธอมาใส่ให้ อิอิ”

ป่วย ..
เทพ .. (อีโมชั่นหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. เป็นอะไรอะ
เทพ .. เปื่อย ปวดหัวงะ (ป่วยตลอดกาล เพื่อนชั้น.. -_- )
หญิง .. กินยาสิ
เทพ .. กินละ แต่ยังมึนๆอยู่เลยอะ
หญิง .. ไปหาหมอรึยัง
เทพ .. มะมีคนพาไป
หญิง .. ไปเองสิ โตแล้ว
เทพ .. ก็ไม่อยากไปคนเดียวนี่ (ทำหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. งั้นก็ชวนเพื่อนไป
เทพ .. ก็อยากให้เธอพาไปนี่นา (บึ่ยอีกรอบ)

และอื่นๆอีกมากมาย บานตะไท หยอดโน่นนิด นี่หน่อย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจสาวๆ จริงมั้ยคะ
....
...
เมื่อทำความรู้จักมักคุ้นกันได้ระดับนึง แทะโลมกันได้พอควร เมื่อมันรู้สึกว่าผู้หญิงเริ่มมีใจให้มันแล้ว มันก็จะเริ่มเสต็ปต่อไป..

วิธีการที่จะดูว่า ผู้หญิงเริ่มมีใจก็คือ
1. ฝ่ายหญิงทักมาก่อนในเอ็มและเธอเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยมากขึ้น คุยกันนานขึ้น เรื่อยๆ (แสดงว่าเริ่มอยากคุยกะเรามากขึ้น) ยิ่งหลังจากขอตัวไปทำธุระ เช่น ไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วเธอบอกว่า “กลับมาละ” แสดงว่าเธอบอกเราด้วยความที่อยากคุยกะเราต่อ นับว่าใช้ได้
2. เวลาที่ไม่ได้ออนนานๆ แล้วฝ่ายหญิงถามหา ว่าไปไหนมา (แสดงว่าแอบดูเราตลอด ว่าเราออนมั้ย อิ๊ๆๆ)
3. ขึ้นหัวเอ็มเศร้าๆ เหงาๆ แล้วฝ่ายหญิงถาม ว่าเป็นไรมากมั้ย (แสดงว่าเธออ่านหัวเอ็มเราด้วย เย้)
4. เวลาที่แสดงตัวว่าป่วย แล้วฝ่ายหญิงถามไถ่อาการ ดูเป็นห่วงเป็นใยกัน (เธอเริ่มเป็นห่วงเราละ )
5. ผู้หญิงถาม ว่าพรุ่งนี้ เย็นนี้ ตอนนั้นตอนนี้ จะออนมั้ย (โอ้ แสดงว่าคารมกรูได้ผลแน่นอน เสร็จโจรเรยงานนี้ )
ขั้นตอนที่สาม .. ใช้ความสงสารเพื่อเรียกคะแนน

ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ร้อยทั้งร้อย ธรรมชาติออกแบบมาให้เธอเหล่านั้นเป็นเพศที่อ่อนโยน ใจอ่อน และขี้สงสารเป็นทุนเดิม ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวย ดุดัน แค่ไหนก็ตาม ..
นั่นแหละ คือช่องว่างที่จะทำให้เพื่อนเราแทรกตัวลงไปโดยง่าย
ยิ่งอีตาชายหนุ่ม ผุ้ที่เคยรื่นเริง ทำหน้าทำตาทะเล้น เป็นตัวบรรจุมุกตลกของแก๊งมาทำหน้าทำตาเศร้าสร้อย มาคุยเรื่องซีเรียสพวกนี้ .. สาวๆร้อยทั้งร้อย เป็นต้องตกหลุมสงสารมันแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะด้วยคำพูดเหล่านี้
..
เทพ ..(อีโมชั่นหน้าบึ่ยๆ)
หญิง .. เป็นอะไรคะ
เทพ .. คิดถึง.. อยากเจอ

วิ้ววววว หัวใจสาวๆแทบจะหล่นไปตาตุ่ม
(อย่าลืมนะคะ ว่าต้องผ่านทุกเสต็ปมาก่อน ต้องรู้สึกว่าผู้หญิงเริ่มมีใจก่อน ซักนิดนึงก็ยังดี ถึงจะใช้คำพูดนี้ได้ ไม่งั้นจะถูกมองว่า .. หม้อค่ะ)
บอกก่อนว่าเป็นการสมมุติคำสนทนาเท่านั้น ที่เราเขียนขึ้นมาเองอะ อาจไม่ตรงเด๋ะแต่แค่อยากให้รู้ว่ามันจะแนวๆนี้ค่ะ

บางทีก็จะใช้คำพูดที่ซีเรียสจริงๆ อย่างเช่น ..
หญิง .. เห็นพี่มีคนมาคุยตั้งเยอะแยะ ทำไมพี่มาเลือกหนูล่ะ
เทพ .. หนูน่ารักที่สุดไง อิอิ
หญิง .. บ้า เอาจริงๆ ทำไมอะ
เทพ .. พี่คุยได้กับทุกคนแหละ ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนทุกคนก็คือเพื่อน เฮฮาไปวันๆ แต่สำหรับหนู พี่รู้สึกว่าหนูมีอะไรน่าสนใจ และทำให้พี่อยากรู้จักให้มากขึ้น
หญิง .. อะไรคะ ที่น่าสนใจ
เทพ .. ตอบยากนะ ลองดูๆกันไปครับ
หญิง ..เป็นแฟนกันก็ดูๆกันไปได้นี่พี่
เทพ .. พี่เจ็บมาเยอะ ผ่านอะไรมาเยอะ ที่แล้วๆมาพี่เคยมีแฟนนะ แต่ทุกคนก็ทิ้งพี่ไปหมด จบเหมือนๆกันหมด ทำให้พี่กลัวกับการที่จะต้องเป็นแฟนกับใครซักคน ...โดยที่ต่างฝ่ายต่างยังไม่รู้จักกันดีพอ เพราะสุดท้ายแล้วพี่ก็จะไม่เหลือใครเลย
หญิง .. (..)
เทพ .. การทีเราตัดสินใจเป็นแฟนกับใครซักคน มันจะเกิดความคาดหวังที่มากกว่าปกติ แล้วบางทีถ้าพี่เกิดทำไม่ได้อย่างที่หวัง พี่อาจจะต้องเสียน้องดีๆอย่างหนูไปอีกคนก็ได้ ซึ่งพี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

..โอ้ววววววววววว จัดการเสริฟด้วยลูกน่าสงสารให้เห็นใจ ตามด้วยเหตุผล และตบด้วยลูก(เหมือนจะ)รัก

คำพูดนี้ใช้บ่อยค่ะ
“พี่เองก็อยากจะรักใครซักคนนะ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่มีใครรักพี่จริงหรอก .. ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น”
“ที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะทิ้งพี่ไป”
“พี่ไม่เหลือใคร”
(พอสาวๆเจอแบบนี้ ถ้าหลวมตัวตอบไปว่า หนูไม่ทิ้งพี่หรอกนะ ก็เข้าแก๊บเลยค่ะ โฮะๆๆ)
ที่มันพูดมาก็ไม่ได้โกหกนะ .. มันไม่เคยบอกเลิกใครก่อน แฟนที่ผ่านๆมาที่มันเคยคบล้วนเป็นฝ่ายไปมีคนใหม่ทั้งสิ้น มันบอกกับเราว่า เพราะตอนนั้นมันโง่ มันทำตัวดีเกินไป เลยกลายเป็นของตายของคนอื่น

แต่ให้เราเดานะ จากอุปนิสัยของมัน ถ้ามันเบื่อใครซักคน หรือรู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่ แต่ดันถลำตัวไปเป็นแฟนแล้ว มันไม่มีทางเป็นฝ่ายบอกเลิกหรอก ..
แต่จะเริ่มห่าง
อย่างเช่น จากที่เคยออนเอ็มคุยกันทุกวัน .. ก็จะกลายเป็นออนบ้าง ไม่ออนบ้าง
จากที่เคยคุยกันนานๆ ก็จะกลายเป็นคุยแป๊บเดียว แล้วก็ขอตัว ไปดูหนัง ไปซักผ้า บลาๆๆ

ชวนไปไหน ก้อาจจะไปด้วยกัน แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่ เรื่องแบบนี้ผู้หญิงรับรู้ได้นะคะ ขึ้นอยู่กับว่าจะมีซักกี่คนที่ยอมรับความจริงเท่านั้นเอง

แต่ยังไงมันก็จะไม่บอกตรงๆแน่นอน ถ้าผู้หญิงถามว่า เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปนะ ไม่รักกันแล้วเหรอ มันก็จะตอบว่า

“บ้า ไม่ใช่อย่างนั้น”
ถ้าผู้หญิงยังยืนยัน คาดคั้นอีก มันก็จะไม่พูดอะไร แต่จะลูบหัว หรือดึงเข้ามากอด ถ้าอยู่กันสองคนในที่ลับตานะ (.. อ่า เริ่มเรทละ)

เพราะมันรู้ดีว่า .. ผู้หญิงจะรู้สึกดี เมื่อถูกสัมผัสจากคนที่เธอรัก (จริงอะเปล่า สาวๆ)
....
..
มันจะให้เวลากับเพื่อนมากขึ้น ไปไหนไปกับเพื่อน อะไรประมาณนี้
เริ่มมองหาคนอื่น แต่ยังไม่จีบนะ มองๆไว้

จนวันใดที่ฝ่ายหญิงเริ่มหมดรัก หรือคิดว่าฝ่ายชายไม่รักตนแน่แล้ว เธอก็จะเป็นฝ่ายบอกเลิกเองค่ะ

(แน่นอน ว่าอาจจะพูดไปด้วยความน้อยใจ หรือมีคนใหม่ หรืออะไรก็ตาม) มันก็จะเริ่มปฏิบัติการใหม่กับเป้าหมายคนต่อไปทันที และจะเอาเรื่องของคนเก่า ไปเล่าให้คนใหม่ฟังประมาณว่า .. เห็นมั้ยล่ะ สุดท้ายแล้วเค้าก็ทิ้งชั้น ตามเสต็ปเดิม
...
จุดเรียกคะแนนสงสารอีกเรื่องคือครอบครัวค่ะ

โดยเฉพาะเพื่อนเราคนนี้ ครอบครัวมันมีปัญหาจริงๆด้วย พ่อแม่แยกทาง ญาติพี่น้องไม่มีใครเอาไปเลี้ยง ลำบากมากมาย จริงๆเรานับถือมันนะ ที่มันยังสามารถรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา มาเดินทางในสายปกติได้ ดังนั้นเมื่อใดที่มันเล่าเรื่องครอบครัวมันให้เหล่ากลุ่มเป้าหมายฟัง (ไม่ได้เล่าพร่ำเพรื่อนะคะ เฉพาะคนที่เลือกแล้ว) .. โอ้ยย เทใจไปเลยค่ะ ร้อยทั้งร้อย สาวน้อยสาวใหญ่ เป็นต้องเห็นใจ และนึกชมบวกกับประทับใจเพื่อนเราอยู่ไม่น้อย ที่เป็นคนสู้ชีวิต อะไรแบบนี้

มีทั้งมุมที่เป็นเด็ก คุยสนุกสนาน และยังผ่านโลก ผ่านอะไรมาเยอะ ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ในบางมุม ดูพึ่งพิงได้ เอาจริงเอาจัง แม้ตอนนี้จะไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ .. แต่เหล่าสาวๆ ก็มักจะวาดฝัน ว่าด้วยความคิดดีๆของคนๆนี้ คงทำให้มีอะไรพวกนั้นได้ไม่ยาก ..
และนั่นก็คืออีกเหตุผลนึง ที่เหล่าสาวๆยอมเทใจให้มันค่ะ

คุณ Gaea เกือบใช้ได้แล้วค่า .. แต่อย่าลืมว่า ข้อมูลที่ดีต้องมีปริมาณเยอะๆนะคะ หมายความว่า ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนั้นบ่อยๆ และ เกิดข้ออื่นๆตามมาด้วย ขึ้งจะเข้าขั้นค่ะ อิอิ
-----------------------------
อะต่อๆๆ

ทีนี้ๆๆ เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มมีใจแล้ว แต่ถ้าเพื่อนเราดั๊นนน รู้สึกว่า ยัยนี่ไม่ใช่ละ ไปกันไม่ได้แน่นอนแฮะ จะทำไงดี
วิธีปฏิเสธที่นิ่มนวลของมันก็คือ ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเรายังดูใจกันอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่บางการกระทำจะแสดงให้รู้ว่า มันเริ่มห่างจากเค้า เช่น

- ไม่ค่อยจะทักเอ็มไปก่อนเหมือนอย่างเคย หรือนานๆที จะทักไปก่อนบ้าง(แต่ถ้าอีกฝ่ายทักมาก็จะคุยปกติ)
- ไม่เป็นฝ่ายชวนไปไหนต่อไหน (แต่ถ้าอีกฝ่ายชวน แล้วมันว่าง มันก็ไป)
- ไม่คุยนานเหมือนแต่ก่อน (หันไปคุยกับเป้าหมายคนต่อไปแทน)

เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของตัวเอง เพราะเริ่มรู้สึกว่าเธอรอคอยอย่างไร้จุดหมายไปทุกที สาวเจ้าก็จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม ว่าตกลงเราจะเอายังไงกันดีคะ และอย่างที่บอกว่า สาวๆที่มันเลือกมาแต่ละคนนั้น ล้วนดูมีวุฒิภาวะระดับนึง ไม่ใช่สาวที่จะมานั่งคร่ำครวญ ทำร้ายตัวเอง หรือโหวกเหวกโวยวายเมื่ออะไรไม่ได้ดังใจ ดังนั้น การปฏิเสธสาวประเภทนี้ ร้อยทั้งร้อย แม้จะเสียใจแค่ไหนเธอจะยอมรับความจริง (และกลับไปร้องไห้คนเดียว) ไม่ตามตื้อ ไม่เกาะติด .. ซักพักเธอก็จะดีขึ้น และทุกอย่างก็จะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (จึงเข้าแก๊บเพื่อนเรา สบายแฮ)

ถ้าคนๆนั้นอายุน้อยกว่า เป็นรุ่นน้อง มันก็จะตอบประมาณว่า


"พี่คิดว่า ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้วนะ พี่อยากได้หนูเป็นน้องสาวตัวแสบคนนึงมากกว่า หนูเป็นคนที่พี่สามารถคุยอะไรได้อย่างสบายใจอย่างทุกวันนี้ และพี่ก็อยากเป็นพี่ชายที่แสนดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ"

ถ้าผู้หญิงยืนยัน “ แต่.. หนูคิดกับพี่มากกว่านั้นไปแล้วนะ จะให้คิดเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมมันก็ยากนะ”

มันก็จะตบด้วยคำพูดประมาณว่า .. "พี่ไม่เหมาะสมที่จะคบกับใครหรอก เชื่อพี่สิ ถ้าคบกันซักวันหนูก็จะเสียใจ เราอาจจะมองหน้ากันไม่ได้อีก ซึ่งพี่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น พี่อยากได้เราเป็นน้องสาว เป็นพี่น้องที่สนิทกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ บางครั้ง การที่มีใครซักคนยังเป้นห่วงเรา มันก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแฟนกันเสมอไปหรอกนะ"

"พี่พูดแบบนี้ ..หนูคงต้องใช้เวลาทำใจนานเลยนะ"

"คนเรามีเวลามากมายกว่าครี่งชีวิต ถ้าหนูไม่สบายใจที่จะคุยกับพี่ในสถานะนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาช่วย แต่ไม่ว่านานเท่าไหร่ พี่ก็จะรอ รอน้องสาวที่น่ารักคนเดิมของพี่กลับคืนมา"
...
..
เน่าสนิทค่ะ .. และส่วนใหญ่น้องๆเหล่านั้นก็จะกลับไปทำใจ ห่างไปซักพัก พอกลับมาก็จะเป็นพี่น้องกันไป บางทีน้องก้ไปหาแฟนใหม่ มีคนอื่นดามหัวใจ แล้วค่อยกลับมา ถามว่าเพื่อนเราเห็นน้องเค้ามีแฟนแล้วรู้สึกไรมั้ย .. ไม่เลยค่ะ เข้าแก๊บเลย มีแฟนแล้วจะได้ไม่ค่อยมีเวลามาวุ่นวาย ชั้นจะได้จัดสรรเวลาไปให้คนต่อไป สบายแฮ

ถ้าหากว่าเป้าหมายอายุเท่ากัน เป็นเพื่อนกัน มันก็ใช้คำพูดคล้ายๆกันค่ะ แค่เปลี่ยนจากน้องสาว เป็นเพื่อนที่แสนดี เพื่อนแท้ เพื่อนตาย บลาๆๆ ว่ากันไป

เบื้องหน้านั้นใช้คำพูดดิบดี แต่ลับหลัง สิ่งที่มันคิดก็คือ ..
..
ยัยนี่แม่มไม่ไหว
ตามจิกเกินไป
ซกมกเกินไป
ขี้งอน ไร้เหตุผลเกินไป
โลเลเกินไป
บลาๆๆ

เหตุผลที่แท้จริงที่มันไม่เลือกนั้น มันมีอยู่แล้วค่ะ แต่อย่าไปคาดคั้นถามเล้ย มันไม่มีทางหลุดปากพูดมาให้คุณฟังแน่นอน
........
...
อ่ะ ที่นี้มาว่ากันในเรื่องเรทๆบ้าง (อิอิ รู้นะ ว่าหลายคนรอฟัง)

อย่างที่บอกว่าเพื่อนเรา ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนที่มันคบ .. ถ้าผู้หญิงไม่เป็นใจ มันก็ไม่บังคับค่ะ
แต่ถ้าผู้หญิงหย่อน หยอก หยอด กันถึงที่ มันก็เต็มใจสนอง (โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มันดูๆใจอยู่รึเปล่า และไม่จำเป็นว่ามันจะคบใครเป็นแฟนอยู่รึเปล่า)

ช่วงที่มันมีแฟนอยู่ มันก็เคยมีอะไรกับผู้หญิงอีกคนที่มาชอบมัน พอเราด่ามัน มันก็ตอบประมาณว่า....
“ ชั้นก็ผู้ชายทั้งแท่งนะเว้ย เค้ามาให้ท่าขนาดนั้น ไม่เอาก็ตุ๊ดแล้ว”
ซึ้งเลย เจอแบบนี้เข้าไป..

หลังจากที่ตกลงดูใจกัน (นั่นหมายความว่าฝ่ายหญิงเริ่มมีใจบ้างละ) ถ้าถูกใจ มันจะชวนไปนั่น ไปนี่ ไปโน่น
(อ่ะๆ เที่ยวตอนกลางวัน ไปเช้าเย็นกลับนะคะ อย่าคิดลึก)
อาจจะไปดูหนัง กินข้าว ซื้อของ อะไรบ้างตามประสา
มันรู้ว่า ผู้หญิงชอบจัดการ (และบงการ) ดังนั้น เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม มันก็จะชวนคุณเธอไปเลือกซื้อเสมอๆ

“อยากได้นั่นอะ พาไปซื้อหน่อยๆๆๆ”
“อยากไปนี่อะ ไปกันนะๆๆๆ”

อะไรประมาณนี้ ..
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างอย่าหวังเลยค่ะว่ามันจะเลี้ยง จะเป็นป๋าใจป้ำอะไรแบบนั้น (ใจมันไม่ป้ำ แต่จะปล้ำแทน อิอิ)
แชร์กันออกค่ะ ถ้ามากกว่าไม่กี่บาท เศษๆนี่ออกให้ได้ แต่ถ้าหวังจะให้เลี้ยงตลอดรายการนี่ .. หึหึ ฝันไปเถอะ


.....เมื่อไปไหนมาไหนกันบ่อยๆแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้กันมากขึ้น .. ก็ยังมีโอกาสถูกเนื้อต้องตัวกันมากขึ้นด้วยใช่ม้า .. นั่นแหละที่ต้องการเลย

แต่ทีนี้ไอ้ครั้นจะไปจับไม้จับมือ กอดคอกันเลยคงจะไม่งาม
ทุกอย่างมันต้องมีเสต็ปค่ะ


กลับมาต่อละค่ะ

คุณ Heretics ยินดีด้วยค่ะ คุณได้เจอตัวแม่แล้ว อิอิ

รู้สึกว่าจะมีคนมีประสบการณ์เจอแบบนี้เยอะเหมือนกันแฮะ
ความจริงเราว่านะ จะจีบ จะทำเรื่องแบบนี้ก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ ถ้ามีความจริงใจ มีความรักผู้หญิงจริงๆ และมีแค่ทีละคน..

แต่การมาให้ความหวังมากมาย คนโน้นที คนนี้ที พอไม่ใช่ก็จากไปแบบนี้ คิดว่ามันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นา คิดว่าสาวๆหลายๆคนคงคิดเหมือนกัน ขอให้หนุ่มๆเข้าใจด้วยนะคะ อย่าทำร้ายกันเลยค่ะ บาปกรรมป่าวๆน่อ

ต่อจากของเดิม ที่ค้างไว้เรื่องเสต็ปในการ xxx ของเพื่อนเรานะคะ

ต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงบางคนรักนวลสงวนตัว ไม่ชอบให้ชายใดมาแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ แต่ผุ้หญิงบางคนก็อยากให้คนที่รักแตะตัว ลูบหัว จับมือบ่อยๆ ..
ซึ่งวิธีที่จะแยกผู้หญิงสองแบบนี้ออกจากกันก็คือ ..

ทดลองทำค่ะ

เริ่มแรก .. ลูบหัว (ด้วยความเอ็นดู)
จะแค่ตบหัว หรือผลักหัวเบาๆก่อน(นึกภาพออกใช่มะ) เวลาที่ผู้หญิงเอ๋อๆ หรือทำไรผิดพลาด แล้วสังเกตุการตอบสนอง....ถ้าผู้หญิงไม่ว่าไร แถมทำหน้าแอ๊บแบ๊ว หัวเราะ ยิ้มอายๆ หรือปากว่าแต่ใจยิ้ม แบบนี้ใช้ได้ แสดงว่าเธอชอบให้คนรักลูบหัวด้วยความเอ็นดู เหมือนในการ์ตูน ในหนังเกาหลีทั่วไป แบบนี้ไปขั้นต่อไปได้ค่ะ

เสต็ปย่อยค่ะ บางทีนอกจากลูบหัวแล้วก็ยังมาจับผม เล่นผม ดมหัว แล้วก็บ่นเน่าบ้าง หรือชมว่าหอมดีบ้าง
โอยย แค่นี้ผู้หญิงก็กรี๊ดแล้วค่ะ (จะด้วยความอาย หรืออะไรก็ตามแต่ เหอๆ)

แต่ถ้าผุ้หญิงบอกว่า “เอ้ย อย่ามาตบหัวสิ ไม่ชอบนะ”
แบบนี้คงไม่ได้ค่ะ สิ่งแรกที่แว่บขึ้นมาในหัวก็คือ ..ไม่จับหัว เดี๋ยวจับอย่างอื่นแทนละกัน ฮ่าๆๆ

ขั้นที่สอง จับมือ

เมื่อลูบหัวได้ การจับมือกันก็ไม่น่าจะใช่ปัญหา
แต่เพื่อนเราไม่ชอบเดินจับมือค่ะ นอกจากจะอยู่ที่ลับตาคน(อย่างในห้อง อะไรแบบนี้) เนื่องจากว่า ...

มันเป็นการประกาศให้ชาวบ้านรู้มากเกินไปค่ะ ว่าเราสองคนเป็นคนพิเศษกัน
เกิดจับมือกันเดินร่อนไปร่อนมา ไปสยาม ไปดูหนัง แล้วดั๊นมีคนรู้จักมาแอบเห็น อะไรแบบนี้มีหวังจบเห่ ลือกันไปสามบ้านแปดบ้านแน่นอนค่ะ ดีไม่ดีไปเข้าหูกิ๊กอีกคนแล้วจะบานปลายเปล่าๆ

แต่ยังไงก็ตาม วิธีการที่ผู้ชายทั่วๆไปใช้กันบ่อยเพื่อจะจับมือสาวๆ ตามที่เราได้ยินมาก็คือ
ทำให้มัน(เหมือนจะ)เป็นอุบัติเหตุค่ะ

ส่วนใหญ่จะเป้นช่วงที่ผู้หญิงไม่ทันระวังตัว
เช่น เวลาข้ามถนน (มุกยอดฮิต) .. จับมือข้ามไป แล้วทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น
หรือเวลาไปชอปปิ้งแล้วเจออะไรน่าสนใจ (หรืออาจจะแกล้งทำเป็นสนใจ) .. ก็จับมือลากไป แล้วบอกว่า .. เอ้ย ดูนี่ดิๆๆ

จากนั้นดูปฏิกิริยาของคุณเธอ ถ้าเธอเขิน อมยิ้ม หรือไม่ว่าอะไร ก็แสดงว่าโอเคคับ

ยังมีอีกวิธีนึงที่ง่ายๆ ซื่อๆ และได้ผลดี ก็คือถามตรงๆเลยค่ะ
“ขอจับมือนะ” อะไรแบบนี้
(ส่วนตัวแล้วเราว่ามันก็ดูน่ารักดีนะ อิอิ)

ขั้นที่สาม โอบไหล่ – ชวนไปที่ห้อง

รวมเป็นข้องเดียวกันเพราะว่า อาจจะเกิดแบบไหนก่อนก็ได้ค่ะ

จะมาขั้นนี้กันก็ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยากซะทีเดียว
เมื่อลูบหัวได้ มือมันก็เลื่อนมาที่ไหล่ได้ ถูกมั้ยคะ อาจจะไม่ได้โอบไหล่เดินตลอด แต่บางครั้ง บางสถานที่ โดยเฉพาะที่คนเยอะๆนี่ ใช่เลยค่ะ สถาณการณ์เอื้ออำนวยสุดๆ

ถ้าทำถึงขนาดนี้แล้วคุณเธอยังไม่ว่ากระไร แสดงว่าเธอชอบที่จะสัมผัสกับคนรักค่ะ


และถ้าสาวๆหลวมตัวไปที่ห้องละก็ หึหึ เข้าแก๊บครั้งใหญ่เลยค่ะ (เพื่อนเราอยู่หอคนเดียวด้วย งานนี้ต้องได้อะไรบ้างละ)
ส่วนเหตุผลที่ชวนไปห้องก็มีตั้งมากมาย สากกะเบือยันเรือรบ เช่น

- ไม่สบายหนักๆ แบบว่าวันๆนอนอยู่แต่ที่ห้องอย่างเดียว จนสาวเจ้าทนไม่ไหว เป็นห่วง ต้องมาดูใจซะหน่อย
หากเธอไม่มา แค่โทรมาถามไถ่อะไรแบบนี้ ก็จะบ่น อยากกินโน่น อยากกินนี่ (ประมาณว่า ซื้อมาฝากเค้าหน่อยนะตัวเอง เค้าออกไปมะไหว จะทำนั่นก็ไม่ไหว นี่ก็ไม่ไหว) แต่มันไม่เคยแกล้งป่วยนะ ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นมากเป้นน้อยเท่านั้นเอง หึหึ

- ชวนมาดูหนัง .. มุกยอดฮิตอีกหนึ่งอัน “เอ้อ มีหนังใหม่ เรื่องนี้ๆๆ ที่ตัวเองอยากดูไง มาดูมั้ย” หรือไม่ก็ “ซื้อหนังเรื่องนี้มาอะ ไปดูด้วยกันนะๆๆ ” ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังรักโรแมนติกหรืออะไร แค่หนังฮิตๆทั่วไป หรือจะให้ดีก็แอบสืบหนังที่ผู้หญิงอยากดูมาซะหน่อย แค่นี้ก็ได้ละ

- มุกอื่นๆขึ้นอยู่กับโอกาส และสถานการณ์จะอำนวย เช่น ซื้อเครื่องเสียงมาใหม่ ทีวีใหม่ หรืออะไรแบบนี้

อาวละ สมมุติว่าผู้หญิงหลวมตัวมาที่ห้องละ
ถ้าเกิดสาวเจ้าเป็นแบบรักนวลสงวนตัว ครั้งแรกๆอาจจะยังไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวไก่ตื่น
แต่ถ้าเกิดสาวคนนี้สามารถลูบหัว โอบไหล่ได้ โอเค งานนี้ต้องมีความคืบหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 47

ขั้นสี่ นอนหนุนตัก

ในกรณีที่ชวนมาดูหนัง ระหว่างที่ดู เป็นโอกาสอันดีที่จะชิงหนุนตักเธอ หุหุ ตายเป็นตายละงานนี้
รอดูว่าเธอจะทำยังไง แต่ส่วนใหญ่ สาวๆที่มาถึงห้องได้ ก็ย่อมมีใจให้เพื่อนเราระดับนึงแล้ว ดังนั้น มันเลยยังไม่เคยโดน”ตบตกตัก” เลยซักครั้ง
ส่วนใหญ่สาวๆก็จะอาย ... อย่างดีก็แค่พูดแก้เขินประมาณว่า ทำไรเนี่ย มันก็จะยิ้มเขินๆ ตอบมาว่า “ไม่ได้ทำไรซะหน่อย แบบนี้สบายดี อิอิ”
เมื่อนอนหนุนตักได้ .. มาแล้วค่ะ มือๆๆๆๆ

ห้องปิดมิดชิดเช่นนี้ จะทำอะไรไปไม่มีใครรู้ จับมือซะเลย วิ้ววว
หากผู้หญิงไม่ขัดขืน นี่ละ มันจะกระหยิ่มยิ้มย่องใจ .. ท่าทางจะไม่ยาก
วันแรกๆ ครั้งแรกๆ อาจจะจบลงแค่นี้ เคล็ดลับคือ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนค่ะ ให้เหยื่อตายใจ แล้วอะไรๆมันก็จะง่ายเอง
เมื่อครั้งแรกมาแล้วไม่มีอะไร สาวๆก็มีความสุข เพราะคิดว่าทั้งหมดนั้นผู้ชายทำไปเพราะรัก ดังนั้น ครั้งต่อไปที่ชวน ก็จะไปง่ายขึ้น ดีไม่ดี หลังๆผู้หญิงอาจจะเป็นฝ่ายอยากไปเอง โดยไม่ต้องชวนก็ได้ค่ะ

ขั้นที่ห้า กอด

แต่ละครั้งที่ไปที่ห้อง ก็จะเหมือนกำแพงความรักนวลสงวนตัวของผู้ญิงจะถูกทำลายลงทีละน้อยๆ จากหนุนตัก มาจับมือ โอบเอว .. ถ้ายังไม่ว่าอะไร .. ต่อไปเค้าก็จะกอดค่ะ

(เริ่มเรทขึ้นทุกที พิมพ์ๆไปชักอายละ ฮ่าๆๆ)

สาวๆอาจจะรู้สึกดี อบอุ่น มีความสุข เมื่อถูกกอดจากชายที่เธอคิดว่าเค้ารักเธอ แต่แท้จริงแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ได้รู้สึกรัก หรืออะไรเลยค่ะ ถามว่าเพื่อนเรามันรู้สึกดีมั้ย รู้สึกดีค่ะ ดีที่ได้กอดใครซักคน แต่ถามว่ารักมั้ย ..ไม่ได้รักค่ะ

เพราะต่อให้ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ต่อให้เป็นผู้หญิงคนอื่นๆ มันก็ยินดีจะกอด เพราะมันมองว่า มันไม่เสียอะไร และผู้หญิงก็มีความสุข เป็นการดีทั้งสองฝ่ายค่ะ
จากนั้นดูปฏิกิริยา ถ้าอีกฝ่ายนึงกอดตอบ หรือมีท่าทีที่ดีตอบสนอง นั่นก็หมายความว่า70%ละ ที่เธออาจจะยอมมากกว่านั้น หุๆๆ

ขั้นที่หก จูบ
(กรี๊ดดด จะเขียนดีมั้ยเนี่ยยย >_<)

อย่าไปคิดค่ะ ว่าผู้ชายจะจูบเพราะรักอย่างเดียว อย่าไปคิดว่ามันจะเหมือนดังเช่นที่สาวๆเคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวาน หรือหนังเกาหลีแสนโรแมนติก

คือ.. สำหรับผู้ชายบางคนอาจจะใช่ .. แต่ระดับเพื่อนเราคนนี้ ไม่ใช่ค่ะ

เหมือนกับการกอดนั่นแหละค่ะ ทำไปเพราะมันคิดว่า ก็รู้สึกดีทั้งสองฝ่าย แต่รักมั้ย ก็ไม่ได้รักเช่นกัน
ถ้าคนอื่น สาวอื่นมายืนให้จูบตรงหน้า มันก็ทำค่ะ ถือว่าเป็นกำไรชีวิต
ต่อให้มันคบใครซักคนเป็นแฟนแล้ว มันก็สามารถไปกอด ไปจุบกับคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกผิดอะไรอยู่ดีค่ะ
เพราะมันคิดว่า เรื่องแค่นี้เอง

ถ้าจูบได้แล้ว ก็ 80% ละค่ะ ต่อไปก็จะ จับ และ จบด้วยขั้นที่เจ็ด..... อย่างที่รู้ๆกัน (ไม่อยากเขียนมาก เดี๋ยวโดนไฟแดง อิอิ เอาเป็นว่าคิดเอาเองเนาะ)
...
..
แต่ใช่ว่ามันจะมีอะไรกับผู้หญิงง่ายๆนะคะ
ทุกอย่างมันใช้เวลามากก บ่มเพาะ ดูใจ ดูหลายๆอย่าง ดูแม้กระทั่งว่า ถ้ามีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แล้วเลิกกันไป ผู้หญิงคนนี้จะเอาเรื่องนี้มาโวยวายมั้ย ถ้ามีความเสี่ยงมันก็จะไม่ทำค่ะ จะให้แค่จูบ นอนกอด อะไรประมาณนี้เท่านั้น

คุณ low_fugacity มีค่ะ ผู้หญิงที่หยุดอยู่แค่ข้อหก (เราเองก้อหนึ่งในนั้นแหละ ฮ่าๆๆ) ก็เป็นอีก 20% ที่เหลือไงคะ อิอิ

ดังนั้นสรุปก็คือ คีย์เวิร์ดรับมือมันอยู่ที่ใจของฝ่ายหญิงค่ะ ว่ารู้จักห้ามใจแค่ไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าไปยอมมีอะไรกับผู้ชายง่ายๆค่ะ
อย่าให้เค้ามาดูถูกเราได้ ว่าเราง่าย และไม่มีค่า

ถึงปากเค้าจะไม่ได้พูดว่าเราง่าย แต่ใช่ว่าเค้าจะไม่คิดค่ะ
เพราะไม่งั้นเราคงมาเขียนเล่าเป็นฉากๆแบบนี้ไม่ได้
ทั้งหมดที่เขียนมา เพราะเพื่อนเรามันเล่าให้ฟัง ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นไง อะไรยังไง ต่อหน้ามันคุยดี๊ดีกับผู้หญิงคนนั้น แต่ลับหลังที่มันมาบอกเราแต่ละเรื่องนี่ .. บอกได้คำเดียวว่าสงสารผู้หญิงค่ะ

เราไม่มีวันรู้เลย ว่าพวกผู้ชายที่เราคบ ที่เราจะมีอะไรด้วยนั้นเค้าจะจริงใจกับเราขนาดไหน จะรักกันถึงขั้นแต่งงานกันหรือไม่

เพราะฉะนั้นสาวๆขา..
เวลาคบใคร .. จงพึงระวังตัวค่ะ... เราเข้าใจนะว่าหญิงชายอยู่ด้วยกัน บรรยากาศอะไรมันพาไป มันเป็นใจแค่ไหน แต่อยากให้ฉุกคิดซักนิดนึงค่ะ รอให้แต่งงานกันไปก่อนแล้วจะไปมีอะไรกันขนาดไหน ท่าไหน ก็ไม่มีใครเค้ามาว่านะคะ ฝ่ายชายก็ไม่มีสิทธิ์เอาเราไปว่าลับหลังอะไรขนาดนั้นด้วย และหากแม้ว่าวันนึงจะเลิกกันไปก็ไม่เป็นไรค่ะ อย่างน้อยฝ่ายชายมันก็ต้องโดนสังคมด่าบ้าง จะไปหาคนใหม่ก็เป็นเรื่องยากบ้าง (เพราะเคยแต่งงานมาแล้ว) ไม่ใช่ว่าเรื่องทุกอย่างเงียบหาย และคนร้ายยังลอยนวลอยู่เช่นนี้
เสริมอีกนิด
เราเคยแอบได้ยินเพื่อนเราคุยโทรศัพท์ค่ะ ( จริงๆตั้งใจแอบฟังเลยละ ฮ่าๆๆ )

ประมาณว่า เพื่อนมัน(ผู้ชาย)อีกคนอกหัก เพราะผู้หญิงไปมีคนใหม่ เลยโทรมาปรึกษาเพื่อนเราคนนี้
คำพูดที่เราได้ยิน ถึงกับอึ้งเลยค่ะ

แทนที่จะบอกให้เค้าทำใจ ใครไม่รักเรา เราก็ต้องรักตัวเอง.. ไม่ค่ะ
เพื่อนเราแนะนำไปประมาณว่า

“เมิงทำยังไงก็ได้ ให้ผู้หญิงกลับมารักเมิง ตอนนี้เค้ายังโลเลอยู่ เชื่อกรูสิ พอเค้ากลับมาเมิงทำให้เค้ารักเมิงมากๆ ให้รู้สึกว่าขาดเมิงไม่ได้ เสร็จแล้วเอาให้สะใจเลย จะมีอะไรกันก็ว่าไป แล้วเขี่ยทิ้งไป ให้ผู้หญิงมันรู้สึก ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีใคร ”

“เมิงไม่ต้องสนใจหรอกว่าเค้าจะเสียใจมั้ย ใครดีมาก็ดีตอบ แต่ถ้าแม่มมาทำกันแบบนี้มันก็ต้องเจอแบบนี้”

อื่มมมมมมม ฟังแล้วก็........... นะ ผู้ชาย
...
.


สุดท้ายเราไม่รู้ว่า เพื่อนคนนั้นเค้าจะทำยังไงต่อไป แต่เราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวเพื่อนๆผู้ชายทุกคนค่ะ ว่าอย่าทำแบบเพื่อนเราเลย คุณอยากจะตามหาคนที่ใช่ คนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราเองก็เข้าใจอยู่ แต่กรุณาเลือกวิธีที่มันดีกว่านี้เถอะค่ะ ..ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริง คุณก็ต้องกล้าพอที่จะตัดสินใจคบใครซักคนหนึ่ง กล้าพอที่จะเสียใจถ้าเกิดผู้หญิงคิดว่าคุณไม่ใช่ แล้วทิ้งคุณไป กล้าพอที่จะบอกปฏิเสธ เมื่อคุณรู้สึกว่าผู้หญิงที่คุณคบอยู่มัน “ไม่ใช่” สำหรับคุณ


จริงๆแล้วก็ทั้งหญิงและชายนั่นแหละค่ะ ถ้าไม่ได้รัก ก็อย่าไปให้ความหวังเค้า อย่าหลอกใช้ความรู้สึกดีๆของเค้ามาทำประโยชน์ให้กับตัวเองเลยค่ะ มันไม่เจริญหรอก

การพูดความจริงบางครั้งอาจจะมีคนเจ็บปวด แต่จำไว้ค่ะ ว่าบาดแผลที่เกิดจากมีดบาด มันเจ็บ แต่มันก็หายเร็วกว่ายาพิษที่ค่อยๆซึมซับเข้าไปทีละน้อยๆนะคะ

พอดีว่าด้วยตำแหน่งงานเราเองนี่ทำงานกับผู้ชายซะ99% เรื่องแบบนี้พวกมันชอบมาเล่ากันในแก๊งซะจนไม่คิดว่าเราเป็นผู้หญิง นินทาสาวๆนี่พูดกันเป็นเรื่องธรรมดามากก เหมือน เฮ้ย วันนี้ข้าวเช้าเมิงกินไร
ยิ่งฟังแต่ละคนพูดถึงสาวๆแล้วก็อดสงสารผู้หญิงไม่ได้ เฮ้ออออ ..

จริงๆยังมีพี่ที่ทำงานอีกคนนึงค่ะ นิสัยคล้ายๆเพื่อนเราคนนี้ แต่ไม่หล่อ (ดูซกมกหน่อยๆด้วยอะ) แต่คารมเป็นเลิศ สาวติดตรึม เค้าแต่งงานและมีลูกแล้วนะ แฟนน่ารักโฮก ... แต่เค้าก็เคยบอกกับเราว่า จะมีผู้ชายซักกี่คนที่คบกันเพราะรักได้ยืนยาว ไอ้เรื่องแบบนี้มันก็ช่วงแรกๆนั่นแหละ หลังๆเวลาแฟนถามว่ารักมั้ย ก็ตอบๆไปงั้นแหละ ว่ารัก แต่จริงๆที่แต่งงานไปนี่ก็ไม่ได้รักหรอก ความรักจริงๆมันเป็นยังไงเค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน .. แต่ว่าคบกันมานาน ก็ถึงเวลา ก็เลยแต่ง... -_-‘’ ระหว่างคบกันเค้าก็มีคนอื่น และทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงคนนั้นอยู่ ........... ดีจริงๆ

ตอนนี้เราก็เลยคิดๆอยู่ว่า ..
มันจะมีผู้ชายซักกี่คนว้า ที่แต่งงานไปเพราะรักและเธอคือคนที่ใช่จริงๆ สมัยนี้คงหายากน่าดู

คุณ fallen_angel เราเห็นด้วยค่ะ .. ฮะๆๆ

สรุปแล้วเพื่อนเราปัจจุบันมันก็ยังไม่มีแฟน และยังออกตามหาคนที่ใช่ต่อไป ตอนนี้มันกำลังเริ่มจีบอยู่อีกสองคน(เป้าหมายใหม่) มีแฟนเก่าที่ยังคุยๆกันอยู่อีกสองคน (แต่คงไม่มีทางรีเทิร์น) มีคนมาชอบมัน แต่มันมองแล้วว่า “เธอไม่ใช่” อีกสามคน (มันบอกว่าเป็นพี่น้องกันค่ะ แต่ก็คุยเรื่อยๆ)

แม้เราจะไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเตือนเธอๆสองคนนั้นที้เป็นเป้าหมายใหม่ของเพื่อนเราโดยตรง(เพราะเค้าไม่รู้จักเรา ฮ่าๆ) แต่เราก็หวังว่า เธอทั้งสองจะได้มาอ่านที่เราเขียนไว้นี้ และรู้สึกระวังตัวมากขึ้นค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ K ค่ะ "รักไม่สามารถแลกรักได้"


มันอาจจะยากที่จะรักใครซักคน แต่มันเป็นการยากยิ่งกว่า ที่จะให้ใครคนนั้นรักเราตอบ
.... ถ้าให้รักไปร้อย แล้วได้คืนกลับมาร้อย โลกนี้ก็คงไม่มีคำว่า คนอกหัก กับรักเค้าข้างเดียวสิเนอะ

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 23:02:22


ที่สุดของเพื่อน จขกท อาจจะไม่เจอคนที่ใช่เลยตลอดชีวิตนี้

เพราะคำพูดหรือความคิดที่สื่อออกไปมันมีผลกับจิตไร้สำนึก

พูดบ่อยๆเข้า ทั้งในเอ็ม ทั้งพูดจริง
ที่สุดมันจะทำให้มีผลกับการกระทำ เพราะจิตย้ำให้เป็นอย่างที่สั่งกายทำ

จิตสั่งกาย

ที่สุดก็จะเจอกับความสัมพันธ์ แบบไม่ยั่งยืน และมีแต่คนทิ้งไป

คิดย้อนกลับ อาจจะเป็นเพราะเขาถูกทอดทิ้ง พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่วัยเด็ก
ความรู้สึกถูกทอดทิ้ง โดดเดี่ยว เจ็บปวดเพราะถูกพ่อแม่หักอก(เปรียบเที่ยบ)
ทำให้ขยาดกับความรัก เข็ด และไม่กล้ารักใคร
เพราะกลัวที่จะเจ็บปวด และถูกหักหลังอีก
ทำให้เขาปฎิเสธการทีจะมีคู่ครองโดยไม่รู้ตัว

และเมื่อผิดหวัง
ก็จะแก้แค้นเอาคืน อาฆาตรุนแรง (จากที่แนะนำเพื่อนที่อกหัก)

อาจจะมีสักวันที่เพื่อน จขกท ระลึกได้
และหลุดพ้นจากวังวน ของรักปลอมๆ
และหันมารักตัวเองอย่างจริงๆจังๆ

จากคุณ : สีน้ำสายรุ้ง
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:32:45


เชื่อเถอะครับ เวรกรรมมีจริง ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้สิ่งนั้นตอบแทน ไม่ช้าก็เร็ว
แต่ที่แน่นอนในตอนนี้ เพื่อนเจ้าของกระทู้ เป็นพวกที่หลงผิด คิดว่าสิ่งชั่วที่ทำนั้น
เป็นกำไรชีวิต หารู้ไม่ว่า นรกและความรุ่มร้อนทั้งหลายนั้นติดตัวอยู่ตลอด แม้ตายไปแล้วก็จะยังตามไปด้วย
ถ้าใครยังพอมีบุญอยู่บ้าง ก็อาจจะเลิกในภายหลัง แต่สิ่งชั่วที่เคยทำไว้นั้น ก็ยังต้องชดใช้อยู่ดี
ไม่คุ้มค่าเลย ไม่ใช่กำไรชีวิตเลย

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม นั่นคือเป็นไปตามสิ่งที่ได้ทำมา ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข
แต่สิ่งที่เราเลือกได้คือการกระทำในปัจุบัน ในตอนนี้ นั่นคือ จงใช้สติและปัญญาให้มาก
เมื่อมีเหตุการณ์ใดเข้ามาในชีวิต ให้ใช้สองสิ่งนี้เสมอ จะทำให้พาตัวให้รอดพ้นจากภัยทั้งหลายได้ หรือจากหนักก็จะกลายเป็นเบา

อยากฝากถึงผู้หญิง สติมาปัญญาเกิด และจะช่วยให้แยกแยะผู้คนได้ ว่าใครหวังดีหรือประสงค์ร้าย
และไม่จำเป็นต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆมา แล้วจึงจะรู้ สิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้ ฝึกได้
ขอเพียงใช้ชีวิตให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ก็สามารถพาตัวให้รอดพ้นจากมารสังคมเหล่านี้ได้

และด้วยปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ขอให้ความดีที่ทุกท่านได้ทำมา ส่งผลให้ทุกท่านมีความสุขนะครับ

จากคุณ : Ap_Ni
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 00:44:45


มาดูกันว่า .... ผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนหนึ่ง เค้ามีวิธีตามหาคนที่ใช่ กันยังไง -- ภาคสองค่ะ

----
ปกติ ไม่ได้เข้าห้องนี้ นะครับ
พอดี มีคนไปโพสท์

กระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8715171/I8715171.html
ซึ่งมีลิงค์ของกระทู้ในห้องนี้อยู่

อ่านเสร็จ

ก็เลย ไปดูรายการ กระทู้แนะนำ ของห้องนี้ด้วย
แล้วมาเจอกระทู้นี้ ทั้งสองภาค

---
ขอแสดงความเห็น ในฐานะ ผู้ชาย
ละกันครับ

ถ้า จขกท เรียก เพื่อนคนนี้ ว่าเทพ ที่เสน่ห์แรง
ตรงนี้ เข้าใจว่า

เพิ่งเคยเจอ เป็นคนแรก หรือ เคยเจอคนแบบนี้มาน้อย
แล้วตัวเอง ก็เคยหลง เสน่ห์ เขาอยู่เหมือนกันด้วย

เพราะ ถ้าตัวเอง ไม่เคยหลงเสน่ห์เขา
คงจะไม่มีทาง ยอมรับ ว่าเขาเป็น เทพ
อย่างแน่นอน

ถูกไม๊ครับ

แต่ถ้า จขกท ปฏิเสธ ว่าไม่เคยหลงเสน่ห์
นั่นก็คง เพราะ เขาไม่เคยหว่านเสน่ห์ ให้นั่นเอง

ตอนนี้
ก็เหลือ เหตุผลประการเดียว

คือ จขกท ไม่มี อะไร น่าสนใจ หรือ
น่าดึงดูด สำหรับเขา เมื่อเทียบกับ สาวคนอื่นๆ

เขาก็เลยมองข้าม ไปเลย

ตรงนี้
อย่าเคืองกันนะครับ

---

ถ้าผมบอกว่า ในมุมมอง หรือ สายตาผู้ชาย
ที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะ

หรือ อย่างน้อย ก็น่าจะเยอะกว่า จขกท

ผมกล้าพูดว่า

คนแบบนี้ ไม่ใช่....... เทพ เจ้าเสน่ห์
อะไรหรอก

แต่เป็นแค่ ..............นักมายากลความรัก

หลอกได้ แต่ คนอ่อนประสบการณ์
ที่ มีอารมณ์อ่อนไหว

ริเล่น กับไฟ ก่อนวัยอันควร
เท่านั้นแหละ

ผมเตือน สติ สาวๆ ในกรณีข้างต้น
ไว้ละกันครับ

ไม่มีใคร หลอกคุณได้
ถ้าคุณ ไม่หลอกตัวเอง

---

วิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะดูว่า
ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ ที่เข้ามาหาเรา

กำลังแสดง มายากลความรัก ชุดใหญ่
ให้เรา ดูอยู่หรือเปล่า

ก็คือ
พาเข้าบ้าน ไปปรึกษา คน ในบ้านครับ

มาลองให้ พ่อ-แม่ พี่-น้อง ช่วยดูให้

หรือ ถ้าในบ้าน มี ปู่-ย่า ตา-ยาย
อากง- อาม่า ลุง ป้า น้า อา ฯลฯ ยิ่งดีครับ

ช่วยๆ กันดูให้

รับรองว่า
ถ้าชายคนนั้น เป็น

นักมายากล ความรัก

มือต้องสั่น ใจต้องหวั่นไหว

กลชุดใหญ่ ทีเตรียมไว้
เล่นไม่ออก หรอกครับ

แต่
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ที่โดนหลอก
เพราะ คิดว่าตัวเองแน่ เก่ง เจ๋ง

อ่านคนออก ดูคนขาด มั่นใจสุดๆ

ความเห็นคนอื่น ที่ไม่ตรงกับ ใจตัวเองน่ะ
ใช้ไม่ได้ มองไม่ออก หรือ เข้าใจผิด ทั้งนั้นแหละ

ว่าไปโน่น

สุดท้าย
ก็ เข้าทาง อ่ะนะ

บอกแค่นี้ละกันครับ
เดี๋ยว นักมายากล ความรัก

เขาจะเคืองเอา

----
หัวข้อกระทู้ ที่ผมเข้าใจ น่าจะเป็น

นักมายากล ความรัก กับ วิธีการหา เหยื่อ ที่ใช่

มากกว่า

---

ขอให้สาวๆ ทุกคน ที่ตามหารักแท้อยู่
สมความปรารถนา

และ

ปีใหม่นี้เป็นต้นไป ก็ขอให้มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรง และ พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ในชีวต

----

ไปล่ะ ครับ

จากคุณ : The Rounder
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 15:37:12


ความเห็นส่วนตัว

ผมว่า

ที่เจ้าของกระทู้

นำเรื่องราวมาบอก

มันก็ดีอยู่อย่างนะครับ

คือทำให้ทั้งหญิงและชายที่เข้ามาดูในกระทู้นี้

ได้เปิดมุมมองของตัวเองมากขึ้น

สำหรับผู้หญิง

จะได้รับรู้ว่า

ก่อนที่จะตัดสินใจ หรือหลงใหลรักชอบใครสักคน

เวลาที่มีผู้ชายลักษณะนี้ มาทำดี หยอดอยุ่เรื่อยๆ

เผื่อจะหยุดคิดสะกิดความรู้สึกกันบ้าง

ใช่ว่าจะมีความจริงใจ

ในทุกครั้ง และทุกคนที่เข้าหาเรา

น้ำผึ้งบางทีก็ซ่อนยาพิษไว้เหมือนกัน


ส่วนผู้ชาย

ที่คิดจะเป็นแบบนี้

หรือกำลังทำตัวแบบนี้

ก็ได้รับรู้ว่า

สุดท้ายแล้ว

ก็ใช่ว่าจะได้รับความสุขเสมอไป

เพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นเจ็บแล้ว

ตัวเองก็ยังเจ็บไปด้วย

สุดท้ายหาความหมายไม่เจอ

ว่ารักจริงๆเป็นยังไง

ได้แต่ความสนุก ชั่วครู่ชั่วยาม



ส่วนหลังจากที่ได้รับรู้มุมมองเหล่านี้แล้ว

เวลาพบเจอสถานการณ์แบบนี้จริงๆ

ก็เป็นเรื่องของแต่ละท่าน

ตัดสินใจกันเอาเอง

และก็ต้องยอมรับผลด้วย


ในกรณีรู้แล้วยังจะเล่นกับคนลักษณะนี้อีก


จะเรียกว่าสเน่ห์แรงขั้นเทพหรือไม่

ผมก็ไม่รู้

และไม่สน

แต่จากตัวอย่างในกระทู้นี้

ก็บอกกับผมได้อย่างนึงว่า

การตามหารักแ้ท้ หรือคนที่ใช่

ถ้าไม่มั่นใจในความรุ้สึกตัวเองจริงๆ

หรือแค่ทำเพราะตอบสนองความต้องการ และตัณหาส่วนตัว

อย่าเจือกเก็บคนอื่นไว้ในสต็อค

หรือไปสร้างความหวังกับคนอื่นเค้า

หรือจีบดะไปเรื่อยๆ เพื่อหวังเอาชนะ

อย่างนั้นผมไม่ได้เรียกสเน่ห์แรงหรอกครับ

นิยามของเค้าแค่เหมาะสมกับคำว่า

่ผู้ชายหลายใจ

ที่อาศัยความรู้สึกของคนอื่น

มาเป็นเครื่องมือทำให้ประสบความสำเร็จส่วนตัว

ซะมากกว่า


ด้วยความเคารพ

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 18:29:30

จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 18:27:49

ความคิดเห็นที่ 101

^^ ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

ตอบคุณ The Rounder นะ
สมแล้วที่มาจากห้องสินธร อ่านขาดมากค่ะ อิอิ
อาจจะใช่ค่ะ เพื่อนเรามันอาจจะเป็นแค่นักมายากลความรัก

เป็นคนที่หลอกได้แค่ผู้หญิงอ่อนประสบการณ์ และมีอารมณ์อ่อนไหว
แต่เราเชื่อว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เป็นพวกนั้นแหละค่ะ แม้จะแข็งแค่ไหนแต่ก็ยังมีความอ่อนไหวอยู่ เรื่องของประสบการณ์ ก็ยังมีผู้หญิงอีกมากที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในวังวนแบบนี้ ..

เราเลยอยากลัดขั้นตอนให้สาวๆค่ะ เรียนรู้จากความเจ็บปวดของคนอื่น เวลาเจอคนแบบนี้จะได้รู้ว่าเค้ามาไม้ไหน
..
.

อยากที่ตอบไว้ในกระทู้ที่แล้วค่ะ ว่าเราเองก็โดนมันหลอกมาเช่นกัน

ก่อนหน้านั้นที่เป็นเพื่อนสนิทกัน มันก็จะมาเล่าเรื่องของมันกับสาวคนนั้น คนนี้ให้ฟังบ่อยๆ .. และด้วยความที่เราคิดว่า เราเนี่ย รู้เรื่องของมันเยอะนะ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนสนิทมันนะ พอมันจะหันมาหาเรา เราเลยไว้ใจระดับนึง ว่ามันคงไม่หลอกเรา

เพราะทุกอย่างที่มันทำ มันเหมือนกับว่าเราจะเป็นตัวจริงของเค้า

บอกตรงๆว่าเราเองน่ะ ชอบมันมาตั้งนานแล้วละ แต่ไม่อยากจริงจัง เพราะรู้ว่ามันป้อล้อกับคนอื่นแค่ไหน พอมันจะหันมาหาเรา ในใจเราก็ดีใจนะ แต่เราก็ทดสอบมันหลายอย่าง
..
.

เราบอกว่า เราไม่ชอบคนกินเหล้าและไม่มีวันเอาคนกินเหล้ามาเป็นแฟน มันก็เลิกกินเหล้า เวลาพี่ๆที่ออฟฟิศชวนไปเที่ยวกลางคืนไรงี้ มันก็ไม่ไป พอเราถามว่า ทำไมไม่ไปล่ะ มันบอกว่า " ก็แกไม่ชอบไม่ใช่เหรอ" (โห้ยย รู้สึกดีมากมาย)

เรามีคนมาจีบ เป็นหนุ่มจบนอก มีบ้าน มีรถ (แต่พอดีไม่ใช่สไตล์ค่ะ เราไม่ชอบคนรวย แบบว่าเค้าเพอร์เฟคเกินไป) พอเราเล่าให้มันฟัง มันก็บอกเราว่า ตอนนี้มันไม่มีอะไร แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป มันไม่ยอมแพ้ใครหรอก มันจะทำ จะพิสูจน์ให้เราเห็น ให้เราคอยดูสิ (เราก็เชื่อมันนะ ฮะๆ มันได้คะแนนอีกแล้ว)

เราบอกมันว่า จะไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นก็ได้นะ เราเข้าใจว่าเพื่อนๆเค้าก็ต้องมีผู้หญิงบ้าง จะมีแฟนแล้วให้เลิกคบกับเพื่อนผู้หญิงทุกคนเลยก็ใช่ที่ .. มันก็บอก ก็รายงานเราตลอด เสาร์นี้ไปนี่นะ อาทิตย์ไปโน่นนะ (เราเลยไว้ใจมันมากขึ้นๆ เหอๆ)

และหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ หลายคำพูด มันทำให้เราเชื่อใจมันเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ (ดีนะที่ยังเผื่อใจไว้เจ็บ) แต่แล้วทุกอย่างมันก็พังหมด เป็นอย่างที่เห็น

..
.
ตอนที่เรารู้ว่ามันจีบคนอื่นด้วย เรายังไม่อยากจะเชื่อเล้ย .. เราหาข้อพิสูจน์มากมาย แกล้งโง่ต่อไป และพยายามสังเกตุพฤติกรรมทุกอย่าง จนผลสรุปมันออกมาเป็นแบบนี้

เรานะเสียใจร้องไห้มากมาย แต่พอมาเห้นมันยังหัวเราะ ยังจีบผู้หญิงคนอื่นได้เรื่อยๆ โดยไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลยนี่เราก็บอกกับตัวเองเลย พอกันที เลิกเสียใจได้ละ เสียใจไปมีแต่เราที่เป็นทุกข์ ส่วนไอ้คนที่มันหลอกให้ความหวังเรานี่แม่มยิ้มระรื่น จีบคนต่อไปหน้าตาเฉย

นี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่เรามาโพสให้สาวๆได้รู้กันค่ะ

เค้าว่า "คนเก่งเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง ส่วนคนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น ส่วนคนโง่คือคนที่ไม่รู้จักเรียนรู้อะไรเลย"

เรามาเป็นคนฉลาดกันนะคะ

happy new year ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 21:49:25

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 21:48:08

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 21:47:00

ขอบคุณ เจ้าของกระทู้อีกครั้งค่ะ ขอบคุณจากทู้นู้นไปแล้ว
เราเคยเจอผู้ชายแบบนี้มาแล้ว
และพลาดไปชอบมันเขาซะด้วย...
แต่ก็ดีค่ะถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เรารู้จักผู้ชายมากขึ้น
และโชคดีที่ว่าเรารู้จักสันดานคนนั้นเร็วกว่าที่คิด
ไม่ต้องรอให้ถลำลึกมากไปกว่านี้
มาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้รายละเอียดที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย

เราเป็นประเภทเจ็บแล้วจำฝังใจค่ะ...
ดังนั้นถ้าใครจะว่าเราเลือกมากเรื่องผู้ชายเราก็ยอมรับค่ะ
ในการเลือกผู้ชายดีๆซักคนมาเป็นพ่อของลูก
มันไม่ใช่อยากจะคว้าใครมาก็คว้า
เรากลัวเจอแบบที่เคยเจอและกลัวจะเจอแบบเพื่อน จขกท ด้วย

ผู้ชายมากมายเหมือนฝูงลิงก็จริง
แต่ใช่ว่าฝูงลิงจะเป็นลิงที่ดีทุกตัวก็หาไม่
ยอมขึ้นคานไปจนวันตาย
ดีกว่าโดนผู้ชายเลวๆหลอกให้รักแล้วกลับทำเราชอกช้ำระกำใจ

ไม่ต้องแปลกใจหรอกทำไมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงดีๆหลายคน
ยอมเป็นโสด...ไม่คิดจะคบหาใคร
หรือไม่ก็ทำไมผู้หญิงถึงเลือกที่จะชอบผู้หญิงด้วยกัน

ประชากรผู้ชายมีก็น้อยเต็มที
เป็นเกย์ เป็นตุ๊ด ก็เยอะมาก...
ไอ้ที่เข้าท่าเข้าทางหน่อยก็มีเมียไปหมดแล้ว
ไม่ก็ไม่รู้ไปซุกอยู่มุมไหนของโลก?หาไม่เจอ
ร่อนกระด้งออกมาที่เห็นตามท้องถนนก็อิหรอบเดียวกันหมด
ไม่โรคจิต ก็เจ้าชู้....และอื่นๆ

มันไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอกค่ะที่ชอบผู้ชายเลว

จากที่อ่านมา...

เราก็ว่าผู้ชายเองก็เช่นกันค่ะผู้หญิงดีๆไม่เห็นว่าจะชอบเหมือนกัน

นอกจากไม่ชอบแล้วยังทำให้เธอพวกนั้นเจ็บปวดอีกตะหาก

แม้ว่าเธอเหล่านั้นจะยอมเลิกราแต่โดยดี

แต่ใช่ว่าเธอเหล่านั้นจะไม่เจ็บปวดนะคะ

จากคุณ : นารีพินิจ
เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:14:27


อ่านไปเพื่อน จขกท.เหมือนพวก 18 มงกุฏยังไงก็ไม่รู้ เหมือนหลอกให้สาวๆรัก (แถมได้กินฟรีอีกด้วย) แต่ต่างกันตรงที่ว่าก่อนที่มันจะไปแสดงความจริงใจแบบหลอกๆให้กับสาวๆแต่ละราย มันคงต้องหลอกตัวมันเองก่อนว่าสิ่งที่มันทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ผมมีรุ่นพี่อยู่คน คล้ายๆเพื่อน จขกท.แตกต่างกันในรายละเอียดคือ

1. sport กว่า
2. พี่เขาก็ประเภทปากกัดตีนถีบเหมือนกัน แต่ตอนนี้แกก้าวหน้าในหน้าที่การงานมีตำแหน่งใหญ่โตและตำแหน่งที่จะก้าวต่อไปอีก (แกเป็นคนทำงานเก่ง)
2. คนที่อยู่ในองค์กร บริษัทเดียวกัน แกจะไม่จีบ ต่อให้สวยแค่ไหนมาทอดสะพานให้แกก็ไม่สน ยิ่งถ้าอยู่ในสายงานบังคับบัญชาเดียวกัน แกบอกเลยว่าเป็นกฏต้องห้าม จะเสียการปกครอง
3.คนที่เลิกล้างกันไป ก็ยังให้เกียรติเขาเสมอ ไม่มากินในที่ลับ แล้วมาไขในที่แจ้ง
4.คนที่แกคบแต่ละคนพร้อมกัน บ้านจะต้องไม่อยู่ใน zone เดียวกัน พูดง่ายๆคือ ถ้าคนที่ 1 อยู่รามอินทรา คนที่ 2 นี่ต้องแถวพระประแดง
5.ก่อนที่เข้าขั้นเทพ ต้องละในบางอย่าง mail จดหมาย รูปถ่าย รูปคู่ ข้อความใน sms อ่านแล้วดูแล้วต้องทำลายทิ้ง ถึงแม้จะชอบแค่ไหน ห้ามพกติดตัวใส่กระเป๋า (ใครพกยังถือว่าเป็นพวกสมัครเล่น)
6.ถ้าแกไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น ห้างชั้นนำ(พารากอน) ที่อาจจะถูกจับได้จากคนที่รู้จัก (มันจะถึงกัน) แกจะเอาไม้กันหมาไปด้วย

รุ่นพี่เราเพื่อนๆที่ office ใครๆก็นึกว่าเป็นเกย์ เพราะยังไม่แต่งงานและไม่เคยมีใครได้เห็นแฟนแก แต่หารู้ไม่พี่เขานะเข้าข่ายพวก metrosexsual ชอบดูแลตนเอง และก็เก่งด้าน IT+Business หาตัวจับยาก

จากคุณ : ปีศาจValkyrie
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 08:17:06


" ผู้หญิงส่วนใหญ่ ที่โดนหลอก
เพราะ คิดว่าตัวเองแน่ เก่ง เจ๋ง

อ่านคนออก ดูคนขาด มั่นใจสุดๆ

ความเห็นคนอื่น ที่ไม่ตรงกับ ใจตัวเองน่ะ
ใช้ไม่ได้ มองไม่ออก หรือ เข้าใจผิด ทั้งนั้นแหละ

สุดท้าย
ก็ เข้าทาง อ่ะนะ "

อันนี้เข้าตัวเองกับเคสล่าสุด เลยอะคะ
ทุกคนเตือนแต่ไม่เชื่อ อยากลอง ก็เด็กมันไร้เดียงสาสุด สุด 555+
เลยโดนซะ เต็มรัก

ตอนนี้ เราอยากเลิก
ก็โทรไปบอกแฟนใหม่ มันว่า กรุณาดูแลดอในอุปการะหน่อยนะ
รู้สึกว่าจะมาเพ่นพ่านแถวนี้ บ่อยไปแระ
ซึ่งไม่คิดว่า ยังไม่ได้ผล
มันก็แหล จนผญ เชื่อว่าเราไปยุ่งกับเค้าก่อน
เฮ่อ..โง่ จริงๆ ผญ อย่างเรา..

แถมยังเพิ่มเบอร์โทร อีกเบอร์เพื่อเอาไว้ติดต่อเรา หรือคนอื่นๆ

เฮ่อ ตรูจะภูมิใจ หรือ กลุ้มใจกะอีนี้ต่อดีนะ

ถ้ามันไม่เจ้าชู้ :-)นะ มันน่ารักสุด สุดเลยละ เซง

จากคุณ : little lemon
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:56:39


ความคิดเห็นที่ 124

เข้าใจแล้ว



จขกท และสาวที่ หนุ่มคนนี้จีบ เป็นดั่งเช่น " เพชร "
คือ สวย...
ภายนอกดูแข็งแกร่งดื้อรั้น....
แต่โปร่งใส จนไม่รู้จักป้องกันตนเอง....

ทำให้ คนแบบนี้เข้ามาในชีวิตได้ง่ายๆ

โดยส่วนตัว เพื่อนเจ้าชู้ของนายมิ้วๆ มีเยอะมาก ทั้ง
หญิงชาย ส่วนมากลีลาแล้วแต่บุคคล

เนื่องจากผมอกหักบ่อย มันก็แนะนำกันหลายแบบ บางอันดูขัดๆ กันเยอะ

โดยส่วนตัวไม่เจ้าชู้ แต่ อยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ความรัก เพราะ
คนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ การเข้ากับผู้คนได้เป็นความฝันของมิ้วๆ
เลยทีเดียว (พูดตรงๆ อยากเป็นคนมีเสน่ห์)

ดูๆ แล้ว ผู้ชายคนนั้นสำหรับมิ้วๆ มิ้วว่า ไม่ขั้นเทพ เคยเห็นที่ขั้นเทพมาแล้วจริงๆ ตัวเป็นๆ ไม่หล่อ ไม่มีเงิน ไม่ใช่คนหัวดี... มันลุยๆ ไม่ได้จีบดะด้วย...

เราสรุปกันว่า ที่เขาจีบหญิงได้เยอะ เพราะ กล้า และ บุคลิกภาพดี...
พูดจาดี ฉลาดตอบ เอาใจคนเป็น

ขอบคุณสำหรับ แง่คิดเรื่องนี้ครับ

จากคุณ : มิ๊วๆ แมวพันปี
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:57:39

ได้ความรู้ ความคิดอะไรใหม่ๆเยอะดี อิอิ
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ^^

เสริมนิดนึง ..
เพื่อนเราใช่ว่าจะไม่สปอร์ท ไม่เลี้ยงเลยนา .. มันก็มีเลี้ยงบ้าง ในกรณีเช่น รุ่นน้องที่คุยเอ็มกันมาตลอด นานๆ จะเจอกันที หรือไม่ก็มีคนทำอะไรให้ มันก็จะเลี้ยงเป็นการตอบแทน .. แต่ถ้าสาวไหนหวังจะหลอกกินมันละก็ ยากกกกส์

เพราะตั้งแต่คุยกันเริ่มแรกมันจะออกตัวเอี๊ยดดดดดดดด เลยค่ะ ว่ามันจนม๊ากก
มันชอบบอกว่า มันน่ะรวยอยู่อย่างเดียว ก็คือ "รวยแต่เขือ" (กรี๊ดดด อายยยนะเนี่ย เก็ทกันรึเปล่า)

ระหว่างคุยมันก็จะมีแย้บเป็นครั้งคราว ว่าอยู่แบบนี้ต้องประหยัด ต้องส่งเงินให้พ่อกับแม่ต่างจังหวัดที่ไม่ได้เลี้ยงมันมาด้วย
(เป็นคนดีมะ) และต้องเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวอีก วันๆกินแต่มาม่ากะปลากระป๋อง อะไรประมาณนี้

อะแหม พูดมาซะขนาดนี้แล้ว เวลาไปไหนมาไหน สาวๆที่ไหนจะกล้าให้เลี้ยง ใช่มั้ยคะ

แต่สมมุติว่า ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วมันออกตังไปก่อน ถ้าเราทำเนียนๆไป มันก็ไม่ทวงนะ แต่มันจะคิดในใจประมาณว่า ..
" ไม่ไหวผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์หลอกแด๊กตรูนะเนี่ย "
ดังนั้นสาวคนนี้สำหรับคนนี้อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้กินข้าวด้วยกันค่ะ


คุณ ปีศาจValkyrie
เพื่อนเราก็ทำงานอยู่แผนก IT เหมือนกันแฮะ อนาคตถ้ามีตังหน่อยอาจจะเป็นอย่างเพื่อนคุณก็ได้นะ อิอิ

คุณ มิ๊วๆ แมวพันปี
ผิดไปนิดนึงค่ะ เราไม่ได้สวยอะ ไปถามใครร้อยละ 99 ก็ต้องตอบว่าเราไม่สวย ออกจะบ้านๆ มากๆ (ถ้าเทียบกับแต่ละคนที่มันจีบนะ) แต่ที่มันมาหาเรานี่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อาจจะเพราะนิสัยเราก็เป็นแบบกลุ่มเป้าหมายมันนั่นแหละ ข้างนอกดูเข้มแข็ง เหมือนจะเก่ง แต่จริงๆข้างในยังอ่อนอยู่อีกเยอะ มันอาจจะแค่อยากเพิ่มผู้หญิงในสต๊อกก็ได้ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ..

กล้า และ บุคลิกภาพดี...
พูดจาดี ฉลาดตอบ เอาใจคนเป็น

-ผู้ชายเจ้าชู้ เป็นผู้ที่ขาดความมั่นใจในด้านความรัก
ไม่ค่อยยอมแต่งงาน และเจ้าชู้ไปเรื่อยๆ

-ต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองมีค่า โดยการโปรยเสน่ห์ให้คนมาสนใจเรื่อยๆ

-รักใครจริงๆไม่เป็น

-มีจิตใจเป็นเด็กที่ไม่โต ขาดวุฒิภาวะ

-และหลงตัวเองมากๆ

คนเจ้าชู้ อาจมาด้วยมาดที่ดูมั่นใจสุดๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
เค้าอาจไม่รักตัวเอง และไม่เคยรักใคร
แค่อยากรู้และตื่นเต้นเมื่อลุ้นว่าจะมีคนมารักเขาไหม

เขาจึงสร้างความ ตื่นเต้น โดยหว่านเสน่ห์ให้คนมารัก มาหลง มาหวง
คนเจ้าชู้เป็นคนที่เชื่อถือไม่ค่อยได้ หากใครรักคนเจ้าชู้
ก็ต้องระวังให้ดีค่ะ เพราะไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า
สิ่งที่คุณได้รับอยู่นั้น มันออกมาจากใจเค้า หรือแค่ละครลวง...

จากคุณ : เค็มอย่างเกลือ
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:11:27




เพื่อนเรามีทุกข้อเลยละ เหอๆ

แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 17:46:34

จากคุณ : Epzelon
เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 17:44:15



ขอบคุณทุกความเห็นค่า
กลับมาตอบ อิอิ

คุณ bleu chat ,Jc2000
จริงๆก็เข้าใจได้ค่ะ ว่าคนที่ทำแบบนี้อาจจะตั้งใจจีบจริง มีแค่คนเดียว จริงจังแค่คนเดียวก็ได้ (ตายละวา เราไปตัดอนาคตของผู้ชายดีๆหลายๆคนที่มีสเต็ปการจีบสาวแบบนี้รึเปล่านี่ .. ^^'' )

แต่แหม .. คุณผู้ชายที่ตั้งใจจริง จะจีบสาวแบบหมายมั่นปั้นมือ จะเอาคนนี้มาเป็นแม่ของลูกเนี่ย เชื่อว่า สาวๆเค้ารับรู้ได้แน่นอนค่ะ ที่สำคัญคือ คุณต้องให้การกระทำกับคำพูดของคุณสัมพันธ์กันเท่านั้นเอง อย่าให้ผู้หญิงรู้สึกแคลงใจในความคลุมเครือ ไม่ชัดเจนของคุณ แล้ววันเวลาจะช่วยพิสูจน์ให้รู้เองค่ะ

..
.

สำหรับคุณ Destination Unknown
แฮ่ ถ้าจะให้อธิบายวิธีการทำใจของเรานี่ยาวเลย สงสัยต้องขึ้นกระทู้ใหม่ ..

อิอิ จริงๆแล้วการทำใจได้ของเรามันประกอบไปด้วยหลายอย่างค่ะ
.. อย่างแรกเลยได้รับคำแนะนำที่ดีจากพี่ที่ทำงานคนนึง (ผู้หญิง) ให้คิดซะว่าบุญของเค้ามีไม่ถึงเรา เนื่องจากเค้าทำบาปมาเยอะ เค้าเลยไม่มีบุญพอที่จะได้เราเป็นคู่ชีวิต (เอ้อ ฟังแล้วเราดูดีขึ้นแฮะ)

อย่างที่สอง .. หลังจากเศร้ามาพอควร ถามตัวเองว่าทำแบบนี้แล้วเราได้อะไรมั้ยเนี่ย ร้องไห้ไปขนาดไหน เสียใจไปเท่าไหร่ เค้าก็ไม่มารับรู้ แล้วดูไอ้คนที่เค้าทำเราเจ็บสิ เดินไปเดินมายิ้มระรื่น แถมยังไปจีบคนอื่นต่อได้อีก เหมือนชีวิตมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย..เท่ากับว่าเราเสียสุขภาพจิตอยู่ฝ่ายเดียว ..แล้วแว่บนึงความคิดแบบนี้ก็โผล่มา เฮ้ยย..มันไม่แฟร์นี่หว่า ทำไมเราต้องมาเสียใจ จิตตกกับไอ้คนที่เค้าไม่เห็นค่าเราด้วยวะ กลายเป็นว่าผู้ต้องหาลอยนวล แล้วผู้เสียหายแบบเราเป็นคนโดนลงโทษซะงั้น??

คิดได้แบบนี้เราเลยหายเศร้าเลย ทิ้งชั้นไปแล้วแกจะต้องเสียใจ คิดแค่นี้ละ อิอิ

ตอนนี้เราลดหุ่น ดูแลตัวเองมากขึ้น หัดทำอาหาร และมีแผนจะเรียนโทเร็วๆนีั้ เราตั้งใจจะทำตัวให้ดีขึ้น จะให้มันได้รู้สึกบ้างว่า ทิ้งคนดีๆอย่างเราไปแล้วมันจะต้องเสียดาย ฮ่าๆๆ ในเมื่อเค้าปฏิเสธเรา ให้คิดซะว่า เราคงยังไม่ดีพอ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเพื่อให้เหมาะสมกับเค้าหรอกค่ะ

แต่เพื่อเอาไว้ตบหน้าเค้า เวลาที่เค้าไม่เหลือใครก็เท่านั้นเอง
ให้เค้าเห็นว่าเราอยู่ได้ แถมสบายดีมากๆด้วย ดีกว่าที่มีเค้าอยู่ซะอีก.. มันเป็นความสะใจเล็กๆค่ะ

ว่าไปนั่น นี่แค่ความคิดค่ะ จะทำได้รึเปล่านี่ต้องดูกันต่อไป
บางที..ต่อให้ทำดีแค่ไหนมันอาจจะไม่รู้สึก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอย่างน้อยทำแล้วเราก็รู้สึกดีกับตัวเองค่ะ สู้ๆ

-- มาดูกันว่า .... ผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนหนึ่ง เค้ามีวิธีตามหาคนที่ใช่ กันยังไง Part I--

“ผู้หญิงน่ะ ร้อยทั้งร้อยจริงๆแล้วไม่มีอะไรหร้อก ไม่ต้องมีอะไรเลยก็จีบได้ทั้งนั้นแหละ .. ขึ้นอยุ่กับว่าชั้นจะจีบรึเปล่าเท่านั้นเอง”
เป็นคำพูดของเพื่อนเราคนนึง
เพื่อนสนิท .. (ที่ตอนนี้กลายเป็นแค่คนรู้จัก ไปซะละ)
...
..
งานนี้เล่นจริง เจ็บจริง ไม่มีแสตนอิน ไม่มีตัวแสดงแทนค่ะ

เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ สาวๆรู้ไว้ ว่ามุกของผู้ชายเสน่ห์แรงขั้นเทพคนนี้ มันเป็นยังไง
เป็นความรู้สำหรับสาวๆ เผื่อวันไหนมีใครที่เจอแบบนี้เข้าไป จะได้ตามกันทัน..
ส่วนสำหรับหนุ่มๆที่จีบสาวไม่เป็น ก็ลองอ่านศึกษาดูละกันค่ะ คิดซะว่าเป็นวิทยาทานละกันค่ะ อิอิ

เกริ่นกันก่อน ว่าเรารู้จักเพื่อนคนนี้มาสามปี ทำงานที่เดียวกันค่ะ
มีผู้หญิงมาพัวพันกับมันนับไม่ถ้วน ทุกๆวันจะต้องมีผู้หญิงทั้งสาว ทั้งแก่ มาคุยกับมันไม่เคยขาด (อัตราส่วนผู้หญิงกับผู้ชายที่ออฟฟิศเราพอๆกัน แต่ยังไม่เห็นชายคนไหนที่มีสาวๆมาห้อมล้อมเท่ามันเล้ย) .. เธอเหล่านั้นจะแวะเวียนมาที่โต๊ะพร้อมทั้งของกำนัลเล็กๆน้อยๆติดไม้ติดมือมาพอเป็นพิธี.. เรียกได้ว่า เราสามารถไปหาขนมฟรีกินที่โต๊ะมันได้ทุกวันเลยแหละ

ถ้าไม่นับสาวๆที่คุยเล่นๆพวกนั้น .. สามปีที่รู้จักกัน ..มีสาวๆมาชอบมันจริงๆจังๆสี่คน ไม่รวมแฟนเก่าอีกสองคน ที่ยังตามขอคืนดีอยู่
หนึ่งในสี่ของคนที่มาชอบมันนั้น .. ยอมมีอะไรกับมันแล้ว..
ส่วนอีกคนนึง ก็เลิกกับแฟนที่คบกันมาห้าปี เพื่อมาหามัน เพราะมันบอกว่า ถ้ามีเธอแฟนแล้วมันก็คงต้องตัดใจ..
มันมีอะไรดีขนาดนั้นนะ...
ขอกล่าวถึงพื้นฐานกันก่อน
เพื่อนเราคนนี้เป็นคนต่างจังหวัด ที่มาเรียนและทำงานที่กรุงเทพ
ทำงานส่งตัวเองเรียนมาตลอด เรียกได้ว่าผ่านโลกมาเยอะ
จากเด็กช่างกล เรียนดี กิจกรรมเด่นคนนึง กลายเป็นวิศวกรหนุ่ม จบจากมหาลัยชื่อดัง ... แต่...
ไม่มีเงิน (มีแต่หนี้ค่ะ เพราะกู้เงินเรียน)
ไม่มีบ้าน
ไม่มีฐานะดีๆ
ไม่มีรถขับ

มีแค่คารมดีๆ กับหน้าตารูปร่างที่เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เท่านั้น ..
ไม่ได้หล่อตี๋แต่อย่างใด แต่คมเข้ม ดูเถื่อนๆหน่อย หุ่นดี เพราะมันเป็นนักกีฬา
แค่นี้ก็มีสาวๆมาเวียนตอมมันไม่ขาด

“ผู้ชายดีๆ ผู้หญิงไม่มองหรอก .. เพราะมันเป็นแค่ของตาย ..มันต้องเลวๆแบบชั้นนี่”
นี่คือคำพูดที่มันเคยพูดกับเรา สมัยที่ยังเป็นเพื่อนสนิทกับมันอยู่ ...

จากการที่เราศึกษา ดูใจมันมาซักพัก .. เราก็พบว่า ..

การพูดจา .. การวางตัว .. ทุกอย่างมันทำได้ดีมาก
คงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้สาวๆมาหลงชอบมันโดยไม่รู้ตัว
เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข .. คุยสนุก

ยามปกติก้อจะคุยฮาๆ ทะเล้นนิด ทะลึ่งหน่อย
แต่ยามใดที่สาวๆมีปัญหา มันก็พร้อมให้การช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาที่ดีมาตลอด
...
..
.
เราเอง .. ก็โดนมันใช้วาจาดีๆ มาเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องบอกกับตัวเอง .. ว่าช่วยไม่ได้นะ
เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครหลอกเราได้ .. นอกจากเรากำลังหลอกตัวเอง.. ก็เท่านั้น

step ในการจีบสาวของมันก็คือ

ขั้นแรก ... ปูทางสู่อนาคต
1. หาเป้าหมาย .. สาวสวย ขาว ผมยาวตรง ดูดุนิดๆ นี่คือเสป็คที่มันชอบ (แต่เราไม่ใช่แบบนั้นซักนิด เฮอะๆๆ)

2. หากมีเป้าหมายมากกว่าหนึ่ง ต้องเลือกโดยที่ เป้าหมายเหล่านั้น ต้องไม่มีวันได้รู้จักกัน หรือได้เจอกัน... คนนึงอาจอยู่บริษัทนี้ แต่อีกคนอาจจะอยู่อีกบริษัทนึง อะไรแบบนี้

3. ต้องเคยคุยกับเป้าหมายมาก่อน .. ถ้าไม่เคยก็หาหัวข้อที่จะไปคุยซะ โดยต้องเป็นหัวข้อเรื่องที่เป็นธรรมชาติที่สุด เช่นเรื่องงาน หรือเรื่องบังเอิญ อะไรแบบนี้ หากว่ามีเพื่อนที่รู้จักเป้าหมาย ก็สบายแฮ ให้เพื่อนเป็นสะพานนี่แหละ ดีเลย

4. ขอเอ็ม .. อาจขอจากเพื่อนๆ คนอื่นที่รู้จักกัน หรือขอจากเจ้าตัวโดยตรง (จะขอเมื่อคุยต่อหน้าแล้ว รู้จักกันในระดับหนึ่งแล้ว) โดยมันจะใช้เอ็ม ในการหยั่งเชิงดู ว่าผู้หญิงคนนี้นิสัยพื้นฐานเป็นคนยังไง ท่าทางใช้ได้มั้ย จะสานสัมพันธ์ต่อดี หรือจะหยุดลงแค่เพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักก็พอ

ซึ่งข้อดีของการคุยเอ็มก็คือ ..
- คุณสามารถหายหน้าหายตาไปได้ โดยที่ไม่ถูกตามตัวมากนัก (ไม่ผูกพันว่างั้น)
- ถ้าอีกฝ่ายทักมา แต่คุณไม่อยากตอบ คุณสามารถไม่ตอบได้ หรือตอบสั้นๆ ตอบด้วยอีโมชั่น บลาๆ
- ได้คิดคำพูดที่ดีๆ ก่อนที่จะพิมพ์อะไรลงไป

เมื่อได้เอ็มมาแล้ว .. ก้อจะชวนคุยสัพเพเหระ โดยในช่วงแรก จะยังคุยเรื่องทั่วๆไปเหมือนคนอื่นๆ ไม่ทักไปบ่อยมาก เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจว่าไม่ได้มาจีบ ถ้าความเห็นโดยรวมไปกันได้ ก็จะเข้าสู่ขั้นที่สอง

ความคิดเห็นที่ 3

ขั้นที่สอง .. เชื่อมความสัมพันธ์

ทิ้งระยะคุยเรื่องทั่วไปซักพักนึง ทุกวันๆ เมื่อสนิทกันมากขึ้นก็จะเริ่มหยอด ..ด้วยมุขเสี่ยวๆ ที่หาได้ตามบางรักซอยเก้า
(ด้วยความที่มันเป็นคนทะลึ่ง ทะเล้นอยู่แล้ว ยิ่งมันยิงมุขแบบนี้ เป้าหมายก็จะตายใจ และฮาไปกับคำพูดของมัน)

ถ้ามีเรื่อง มีประเด็นเมื่อไหร่ มันก็พร้อมที่จะเข้าเรื่องแฟนทันที .. อย่างเช่น
“วันนั้นว่าจะทัก .. แต่เห็นเดินกับแฟนเลยไม่กล้าเลย” (เปิดประเด็น)
“ วันไหน”
“ที่ ..บลาๆๆๆ”
“ อ๋อ ไม่ใช่ นั่นรุ่นพี่สมัยเรียน ” (เข้าแก๊บครั้งที่หนึ่ง)
“ อะเหรอ (ส่งอีโมชั่นหน้ายิ้มสุดๆ) ”

จากนั้นสาวเจ้าอาจจะตอบว่า ..
“ เรายังไม่มีหรอก แฟนน่ะ ยังไม่อยากคิด” (เข้าแก๊บครั้งที่สอง เย้ๆ)

หรือถ้าสาวเจ้าคุยเรื่องอื่นต่อ ไม่สนใจเรื่องนี้ เพื่อนเราก็จะดึงกลับมา
“ แล้วจริงๆมีแฟนรึยังนี่”
“ ทำไมเหรอ อยากรู้ไปทำไมล่ะ”
“ จะได้รู้ว่าเรามีสิทธิ์แค่ไหน ”
“ ยังไม่มี แต่ก็ไม่รู้นะว่าเธอจะมีสิทธิ์แค่ไหน” (อะเย้ เข้าแก๊บ อย่างน้อยก็ยังไม่มีเว้ย )
“ ไม่เป็นไร แค่ได้รู้ว่ายังไม่มีก็ดีใจละ อย่างน้อยก็ยังมีสิทธิ์บ้าง อิอิ”

ความคิดเห็นที่ 4

(นอกประเด็น) เทคนิคในการคุยเอ็มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีของมันก็คือ

1. ต้องมีคำลงท้าย เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไม่รู้สึกว่าคำตอบมันห้วนเกินไป.. อย่างเช่น

พรุ่งนี้จะไปด้วยกันอะเปล่า”งะ”
อยากได้”สิ”
งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหา”นะ”
ฝันดี”ครับ”

2. ไม่ปฏิเสธด้วยคำว่า “ไม่” เพราะมันจะดูรุนแรง และแข็งเกินไป แต่จะใช้วิธีการบอกอ้อมๆโดยการบอกเหตุผล ว่าทำไมถึง”ไม่” หรือบางครั้งจะใช้อีโมชั่นส่ายหัว ที่มีลูกกะตากลอกไปกลอกมาแทน (ลองดูในเอ็มอะ)

3. ไม่พูดโกหก เช่น ถ้าสาวคนหนึ่งบอกว่า อยากไปดูหนังด้วยกันจังเลย พรุ่งนี้ไปมั้ย แล้วใจมันไม่อยากไป .. มันก็จะตอบประมาณว่า “เดี๋ยวรอดูก่อนนะ” หรือ “ ช่วงนี้งานยุ่งงะ ไม่รู้จะได้พักเมื่อไหร่” .
.. แต่ๆๆๆๆ ถ้าช่วงนั้นดันว๊างงง ว่าง งานไม่มีอะไรเลย มันก็จะตอบประมาณว่า “ไม่มีตังงะ จนงิ” แต่ถ้าสาวเจ้าจะเลี้ยง มันก็ยินดีไปค่า สบายแฮ ดูหนังฟรี พร้อมคิดในใจ .. เสร็จกรูอีกคนนี้



มาต่อกันค่ะ อิอิ
คือที่เราบอกว่าผู้ชายคนนี้เสน่ห์แรงขั้นเทพ .. ก็เพราะว่า
เพื่อนเราคนนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง รถ บ้าน ความมั่นคงในชีวิต
แต่มันก็สามารถทำให้ผู้หญิงมาหลง วนเวียนมันได้ โดยไม่ต้องใช้เงิน หรือทุ่มเทเวลามากมาย
และที่สำคัญ ..
แม้มันจะจีบหลายคน แต่ผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่มีใครรู้เลย ว่าเพื่อนเรามีคนอื่นอยู่
เมื่อเลิกลากันไป .. ก็ไม่มีใครเลย ที่นึกโกรธหรือเกลียดเพื่อนเรา

ทุกคนยังคุยกันเหมือนปกติ แถมยังมีบางคนที่วนเวียนมาอยากให้เพื่อนเรากลับไปคบกันเหมือนเดิม

(แต่ไม่มีทางค่ะ ของเล่นที่เสียไปแล้ว เพื่อนเราคนนี้ไม่มีวันหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นเอามาซ่อม เอามาเล่นอีกแน่นอน
ยิ่งเป็นของที่เหลือจากคนอื่นแล้วด้วย .. สำหรับชายคนนี้ยิ่งไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม
แต่แน่นอน ด้วยความเหลี่ยมจัดแบบนี้ มันไม่ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงหรอกค่ะ มันจะคุยดี ปลอบใจ ให้ข้อคิด และเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนอีกคน ไปกินข้าว ดูหนัง ไปได้ แต่จะไม่มีวันหวนกลับมาคบกันแน่นอน)

ความคิดเห็นที่ 36

แล้วสาเหตุหนึ่ง ... ที่เพื่อนเราเลือกผู้หญิงที่ดูดุๆหน่อยนั่นก็เพราะว่า
ผู้หญิงประเภทนี้จะมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองสูง เด็ดขาด ระวังตัว และไม่วิ่งไล่ตามผู้ชาย
และพวกเธอจะคิดเสมอว่าตัวเองมีค่า ไม่ซักไซ้อะไรมาก เธอจะจีบชั้นก็จีบไป อะไรประมาณนี้
ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สาวๆแต่ละคนที่มันคุยจะจีบ ไม่รู้ตัวเลยว่ามันยังมีคนอื่นที่คุยๆอยู่ด้วย
ถ้าเกิดวันนึงเกิดเพื่อนเรารู้ตัวว่าสาวคนนี้ไม่ใช่แบบที่มันอยากได้
ความสัมพันธ์ทุกอย่างก็จะจบลง และเริ่มห่างกันด้วยดี โดยที่ผู้หญิงไม่วิ่งไล่ตามตื้อมันแน่นอน


นอกจากนี้ .. ด้วยความระวังตัวของฝ่ายหญิง ก็ยิ่งเป็นเหมือนสารกระตุ้นให้เพื่อนเรามีความรู้สึกอยากจะเอาชนะ ประมาณว่า .. อยากรู้ว่า เธอจะแน่ซักแค่ไหน อะไรประมาณนี้
ยิ่งจีบติด ยิ่งมันมองรู้ว่า ฝ่ายหญิงเริ่มมีใจ มันก็จะกระหยิ่มยิ้มย่อง ภาคภูมิใจในตัวเอง ..
“เห็นมะ ... ฝีมือระดับนี้ไม่มีพลาด ผู้หญิงมันก็แค่นี้แหละว๊า”

เทคนิคในการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเกลียดไม่ลง .. ก็คือ “แสดงให้เห็นว่ามันจริงใจค่ะ”
บางคนอาจจะงง .. เฮ้ย ทำอย่างงี้จะมาบอกว่าจริงใจได้ไง
บอกได้ค่ะ เพราะเพื่อนเราจะไม่พูดโกหก ...
ไอ้เรื่องที่ไม่ดีของมันอะ มีมากมาย.. ถ้าโดนซักเมื่อไหร่จะไม่โกหกค่ะ มีแต่จะพูด .. หรือไม่พูด ก็เท่านั้น

ผู้ชายที่จีบไปทั่ว ไปคนนั้น มากับคนนี้ แต่สุดท้ายมาตกม้าตาย เพราะจับได้ว่าโกหกมากมายแบบนั้น แบบนี้ไม่ใช่เพื่อนเราค่ะ เพราะมันจะเป็นการดิสเครดิตตัวเองเปล่าๆ
นอกจากนี้ถ้าโดนจับโกหกได้ อาจจะทำให้ผู้หญิงเอาไปพูดต่อได้ด้วย ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้แม่ม แตหลอ หม้อดำ ทำให้เป็นการตัดอนาคตตัวเองซะฉิบ จีบคนอื่นต่อไม่ได้กันพอดี

แล้วจะมีเทคนิคในการตอบเลี่ยงยังไง ให้ดูดี และไม่โกหก

1. ไม่ตกลงเป็นแฟนกับใคร .. โดยประโยคยอดนิยมก็คือ ..
“ลองดูๆกันไปก่อนก็ได้ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วละ”

2. ไม่ใช้คำว่าจีบ .. แต่จะใช้คำว่าอยากรู้จักกันให้มากขึ้น..
ยกตัวอย่างเช่น..
ถ้าฝ่ายหญิงถามว่า หนูก็ชอบพี่นะ เราเป็นแฟนกันนะ..
ถ้าน้องคนนี้ถูกใจ มันก็จะตอบเลี่ยงๆ ประมาณว่า
“ พี่คิดว่าตอนนี้ยังไม่รู้จักเราดีพอเลย .. เราเองก็ยังไม่รู้จักพี่ดีเลยนะ”
“ อยากจะรู้จักกันให้มากกว่านี้ แล้วค่อยตัดสินใจเพิ่มความสัมพันธ์เป็นอีกระดับนึง จะดีกว่ามั้ย”
ถ้าฝ่ายหญิงถามว่า ..แล้วตกลงเราเป็นอะไรกันคะ
“ เป็นคนรู้ใจกัน พอได้มั้ย (อีโมชั่นหน้ายิ้ม)”

3. ไม่มีใครพิเศษ .. สถานะทุกคนคือเพื่อน คือรุ่นน้อง ไม่มีแฟน ดังนั้น ถ้าสมมุติว่าคนที่หนึ่ง ถามว่า ไปกินข้าวกับใครเหรอ.. มันจะบอกว่า กับเพื่อน กับรุ่นน้อง บลาๆ ทั้งที่จริงๆแล้ว คนที่มันไปกินข้าวด้วยก็คือคนที่มันกำลังดูๆใจกันอยู่อีกคนนึงนั่นแหละ หรือถ้ามันไปกับแฟนเก่า มันก็จะบอกว่า ไปกับเพื่อน (อ้าว ก็เลิกกันไปแล้วนิ กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้วนิ แม้ฝ่ายหญิงจะดึงยิกๆๆ อยากจะรีเทิร์นเต็มที่ก็เหอะ ถือว่าชั้นไม่ได้โกหกนะ แค่ไม่บอกทั้งหมดเท่านั้นเอง)

4. ไม่ใช้คำว่ารัก .. แต่จะใช้คำว่าชอบ ..
ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนี้พูดคำว่ารักไม่เป็นนะคะ แต่มันจะเก็บไว้พูดกับคนสุดท้าย คนที่มันจริงจังถึงขั้นจะแต่งงานด้วยเท่านั้น (จริงๆแล้วบางที คนๆนั้น อาจจะไม่มีวันได้ยินคำว่ารักจากปากมันก็ได้ เพราะมันอาจจะแต่งงานด้วยความรู้สึกแค่ชอบ และรู้สึกว่าใช่เท่านั้นแหละ แต่ไม่ได้รักหรอก) ..

แต่ยังไงก็ตาม .. แค่คำว่า ชอบ .. มันก็มากพอที่จะทำให้สาวๆอย่างเราๆ หวั่นไหว และเพ้อฝันไปไหนต่อไหนแล้วละค่ะ

ถามว่า .. แบบนี้เธอก็โกหกชั้นสิ ไหนบอกว่าชอบชั้น แล้วทำไมยังไปจีบคนอื่นได้อีก

ไม่ค่ะ เค้าไม่ได้โกหกนะ คนเรามีสิทธิ์ชอบอะไรได้ตั้งมากมาย ชอบเพื่อนคนนั้น ชอบดารา นักร้อง เธอก็แค่หนึ่งในสิ่งที่ชั้นชอบน่ะ แล้วมันผิดตรงไหน ...
แน่นอน .. เรื่องแบบนี้มันแค่คิดในใจ ..แต่คำพูดทำร้ายจิตใจพวกนั้นไม่มีวันหลุดออกมาจากปากของชายคนนึ้ค่ะ
วิธีการตอบเลี่ยง ก็ง่ายๆ ....

“ ชั้นไม่ได้จีบเค้านะ แค่อยากรู้จักก็เท่านั้น”

โอ เมื่อคืนเลิกงานดึก (จริงๆเกือบเช้า แงๆๆ) เลยไม่ได้มาต่อ ขอตอบคำถามเพื่อนๆก่อนละกันนะคะ

เพื่อนเราคงแนวเดียวกับคุณ Crowned Clown และ คุณ Pon Pon Pata Pon ค่ะ ถูกต้องเลย

เค้าแฟร์ เป็นลูกผู้ชาย มีเวลาให้เสมอ (ถ้าไม่มีเวลา เค้าก็จะหาข้อปฏิเสธได้ดีเสมอเช่นกัน )

เค้าเป็นที่รักของทุกคนค่ะ ไม่แค่เฉพาะผู้หญิงนา พวกผู้ชาย พี่ๆที่ทำงานก็เอ็นดู เพราะเอาตัวรอดเก่ง และรู้จักพูด

ถามว่าเค้าเป็นคนดีมั้ย .. ตอบยากนะ เราว่าเค้าอาจจะเป็นเพื่อนที่ดี(เราก็ชอบไปไหนมาไหนกับมันแหละ เหอๆ มันคุยง่าย คุยสนุกดี ไม่เรื่องมาก) แต่ถ้าจะคบเป็นแฟนก็ต้องระวัง หรืออาจจะต้องยอมรับว่า เค้าไม่ได้รักเรา แต่แค่คบไปเฉยๆ อะไรประมาณนี้ค่ะ

ตอบคุณ "หะเมียวจอมซนพุงป่อง" เพื่อนเราไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนค่ะ แต่ถ้าผู้หญิงยอม เค้าก็ยินดีรับค่ะ ยังมีอีกเสต็ปอีกอัน ที่เค้าใช้หยั่งเชิง ว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมเค้ามั้ย เดี๋ยวเราจะมาเล่าแบบละเอียดให้ฟังทีหลังนะคะ

อย่างที่คุณTarence บอกมานั่นแหละค่ะ เรื่องแบบนี้โทษใครไม่ได้ นอกจากตัวผู้หญิงไปยอมเค้าเอง เพื่อนเราไม่มีการฝืนใจใครอยู่แล้ว นอกจากผู้หญิงเอามาใส่พานถวายเอง แล้วไปคาดหวังมากมายเอง ว่ามันจะจริงจังด้วยถ้ามีอะไรกันแล้ว ไม่เลยค่ะ มันมองแค่ว่า เรื่องแบบนี้ผู้หญิงก็อยากได้เหมือนกัน มีความสุขเหมือนกัน ดังนั้นก็ win-win ค่ะ

รู้สึกกระทูเริ่มยาว เดี๋ยวไปตั้งกระทู้ใหม่นะคะ ^^ ซักครู่ๆ

==คำสารภาพของผู้หญิงเจ้าชู้คนหนึ่ง==

อ่านของผู้ชายแล้ว ลองมาอ่านของผู้หญิงดูบ้าง
................
http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8704790/F8704790.html

ถ้าจะถามว่าตั้งกระทู้นี้มาเพื่ออะไร ก็คงจะตอบว่า ไม่ได้มาเรียกร้องความเห็นใจ ทำผิดจริงก็ยอมรับ
แต่ถ้ามันพอจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นบ้างก็คงดี ...
ผู้ชายอ่านกระทู้นี้ก็คงจะพอรู้ผู้หญิงเจ้าชู้เป็นยังไง
ผู้หญิงอ่านกระทู้นี้ก็คงจะพอดูตัวเอง ยับยั้งชั่งใจตัวเองไว้บ้าง อย่าได้ทำตาม
ผู้ชายที่มีแฟนแล้วก็คงจะดูแลแฟนตัวเองให้ดีกว่านี้บ้าง....
เอาเป็นว่าจะมาสารภาพแล้วกันว่าผู้หญิงเจ้าชู้เป็นยังไง

1. เจ้าชู้โดยกมลสันดาน ผู้หญิงประเภทนี้คาแรกเตอร์เขาเป็นอย่างนี้เอง หวานให้กับทุกคน ดีกับทุกคน
แต่ถามว่าชอบใครมั้ย ไม่ชอบสักคน ชอบตัวเองมากที่สุด ผู้หญิงประเภทนี้มักไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ผู้ชายที่มาจีบมักคิดเข้าข้างตัวเอง
ก็เพราะเธอหวานใส่ซะขนาดนั้น ไม่ให้คิดได้ไง
แต่ระวังไว้เหอะ เธอไม่ได้หวานแค่คุณคนเดียวหรอก ใครดีกะเธอเธอหวานหมดแหละ

2. ใจง่าย ผู้หญิงประเภทนี้ต่างจากประเภทแรกนะ ผู้หญิงประเภทนี้จะจิตใจหวั่นไหวง่าย หากเจอคนถูกใจ
เธอ ชอบคุณจริง ๆ แหละ แต่เวลาที่คุณห่างไป หรือมีปัญหากัน หรือแค่มีคนใหม่แทรกเข้ามาที่เธอก็ถูกใจเช่นกัน ใจเธอก็จะเริ่มเบี่ยงเบนไปหาชายคนนั้น
และคนต่อ ๆ ไปอย่างไม่รู้จบ จนกว่าเธอจะไม่เจอใครแล้วก็เท่านั้นแหละ

3. ขี้เบื่อ ผู้หญิงประเภทนี้ชอบความรักช่วงโปรโมชั่น พอความรักที่มีอยู่เริ่มหมดโปรโมชั่นแล้วก็อยากคืนโปรเดิมแล้วเปลี่ยนโปรใหม่
ไม่ อดทนอยู่กับอะไรที่มันซ้ำซากจำเจ หรืออาจจะแค่แอบเปิดเบอร์ใหม่ไว้ใช้ ให้มีโปรใหม่ไว้คอยคุยเพิ่มรสชาติ โปรเก่าก็เก็บไว้เพราะใช้มานาน...

4. ผู้หญิงที่กำลังทรมานกับความรักที่เป็นอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหน พอมีช่องทางให้หัวใจได้มีความสุขก็เผลอไปกับช่องทางนั้น
โดยไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายใครบ้าง เพราะตัวเองโหยหาความสุขมาตลอด โดยหารู้ไม่ว่าที่ตัวเองทำไปกลับทำให้ชีวิตมันบัดซบยิ่งกว่าเก่าอีก


จริง ๆ แล้วคงมีอีกมากมายหลายรูปแบบ แต่เท่าที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นก็คงพอจะรู้แล้วล่ะว่าผู้หญิงเจ้าชู้เป็นอย่างไร
สรุปได้อีกอย่างคือผู้หญิงเจ้าชู้คือ ผู้หญิงที่รักตัวเองมากไปจนลืมใส่ใจและอดทนกับความรักที่ตัวเองมีอยู่
ใครที่กำลังเจ้าชู้ก็ลองหันกลับมาดูความรักของตัวเองว่าเราอยากรักษามันไว้ไหม อย่าปล่อยให้อะไร อะไรมันสายเกินกว่าจะแก้

สุดท้ายนี้ก็คงจะขอให้ทุกคนโชคดี สมหวังในความรัก รักษาความรักที่คุณได้มา ถนอมมันไว้ให้นาน ๆ
โชคดีค่ะ

จากคุณ : anana

****************

เราว่าคนเจ้าชู้เนี่ยเป็นคนที่น่าสงสารนะคะ เพราะเราเคยเป็นคนแบบนั้นมาก่อน
แต่ตอนนี้เวรกรรมที่เคยไปทำให้คนอื่นเสียใจมันตามสนองเราแล้วอ่ะ เข็ดค่ะ
ในความคิดเราอ่ะ คนประเภทนี้เป็นคนที่ต้องการให้คนมาสนใจ
ขาดการดูแล ขาดความอบอุ่น ขาดความรัก การเอาใจใส่
บางคนมีอยู่พร้อมแต่กลับมองไม่เห็น พยายามไปแสวงหาเอาจากคนอื่น
พอมันไม่ใช่แบบที่ตัวเองต้องการก็ทิ้งไปเสียเฉย ๆ
บางคนไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ
มันเป็นปมฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
พยายามจะแสวงหาคนที่จะมาเติมเต็มให้กับตัวเอง
แต่เราว่า ถ้าหากมองหาอ้อมกอดจากคนอื่น หาเท่าไร ๆ
ก็คงไม่พอ มันไม่อุ่นเท่ากับการที่เรากอดตัวเองเอาไว้แน่น ๆ
ถ้ารู้ว่ารักตัวเองมากกว่าคนอื่น ก็อยู่คนเดียวมันเสียให้รู้่แล้วรู้รอดไปเลยจะดีกว่า
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็เพราะเราเคยเป็นแบบคุณ คล้าย ๆ กับคุณ เคยเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น
เราไม่เคยคบกับใครหลายคนพร้อม ๆ กันก็จริง ๆ
แต่ก็คุยไปเรื่อย ไม่จริงจังกับใครสักคน

คนเจ้าชู้มักจะมีอาการประเภทหนึ่ง
ก็รักนะ ก็ชอบ แต่ให้คบจริงจังจะวิ่งหนี
กลัวการผูกมัด กลัวการใกล้ชิดกับใครสักคนจริง ๆ
เพราะอะไรล่ะคะ ก็อ่อนแอไง กลัวตัวเองจะต้องเจ็บปวด
ไม่รู้คุณ anana เป็นแบบนี้รึเปล่า แต่เราเคยเป็นแบบนี้เป๊ะเลย
มาวันนี้เราเลิกพฤติกรรมเดิมหมดแล้ว
เพราะเคยรักคนคนหนึ่งมาก ๆ แล้วเวรกรรมมันตามสนอง
เห็นผลทันตาในชาตินี้แบบไม่ต้องรอชาติหน้า

ทุกวันนี้ยังคิดถึงคำพูดของคนหนึ่งคน
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเจออีกสักครั้ง อยากจะไปขอโทษคนคนนั้นมาก ๆ
วันที่เราทำให้เค้าเสียใจ เรายังจำได้จนทุกวันนี้ที่เค้าบอกเราว่า
เวรกรรมมันมีจริง เธอทำให้พี่เสียใจมากแ่ค่ไหน
เธอจะต้องเจ็บมากกว่าพี่ร้อยเท่าพันเท่า

ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นยังไง ถ้ารู้ว่าวิธีแก้มันอยู่ตรงไหน ก็หยุดเถอะนะคะ
การทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดทางจิตใจอ่ะมันรุนแรงกว่าการทำร้ายร่างกายมากมายอ่ะค่ะ
ถือว่าแชร์กันนะคะ สู้ ๆ ค่ะ

จากคุณ : ShiKi.RyoKi

**************

ไม่เห็นด้วยทั้งหมดแต่ยังเห็นด้วยกับบางส่วนค่ะ

เราเห็นว่า ความเจ้าชู้ อยู่ในโครโมโซมของทุกคนที่เรียกว่า "คน" นั่นละ

เค้าถึงว่า มนุษย์ขับเคลื่อนชีวิตด้วยพลังทางเพศ
เพราะเราต้องการ ตัวผู้ ตัวเมียที่เข้มแข็ง มาเป็นคู่ครอง เราจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ได้ เงิน ได้อำนาจ ได้ลาภยศ ต่างๆ นาๆ มาเป็นออพชั่นให้ชีวิตดูดีขึ้น เพื่อดึงดูดคู่ชีวิตที่เราต้องการ
เหล่านี้มันก็คือ กิเลส.. ซึ่งมันไม่ผิด ที่ทุกคนจะมีความรู้สึกแบบนี้ เพราะเราต่างก็ยังเป็นคนที่ดิ้นรนต่อสู้กันอยู่บนโลกใบนี้
แต่ไอที่ มันมีปัญหา นั่นเพราะเราไม่รู้จัก "พอ" ไม่รู้จักคำว่ายับยั่งชั่งใจ ไม่รู้จักคำว่า อดทน อดกลั้น เพื่อยกระดับจิตใจของตัวเองให้สูงขึ้น

ผช.เยอะแยะไปที่เจ้าชู้ แล้วบอกว่าตัวเองไม่ผิด ไม่น่าเกลียด เพราะว่าตัวเองเป็นเพศผู้ ข้าพเจ้าเห็นแล้วอยากจะหัวเราะ ที่เค้าเหล่านั้น เที่ยวมาโอ่ ว่าตัวเองเจ๋งแค่ไหน เก่งแ่ค่ไหน ที่มีสาวๆ รอบกายขนาดนี้
เ้ค้าทั้งหลายเหล่านั้นเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าหนอ ..

ผู้ชายที่น่าสรรเสริญ น่ายกย่อง มันไม่ใช่ผช. ที่ไม่รู้จักแม้แต่ความยับยั้งชั่งใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องหรอก แค่ความชั่งใจ ความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนรัก ยังทำไม่ได้ เค้าเหล่านั้นควรได้รับคำสรรเสริญในเรื่องอะไร?

ผญ.ก็เหมือนกัน ผญ. หลายๆ คนในชีวิตข้าพเจ้า ช่างขยันเปลียนแฟนกันไปเป็นว่าเล่น บ้าง ก็ยินยอมนอนกับผช.ง่ายๆ เพียงเพื่อหวังว่าจะได้รับความรักจากเค้า ..
จะมีผช.คนไหนที่รักผญ.ที่ยอมนอนกับผช.ง่ายๆ ได้จริงสักกี่คนหนอ
พวกนี้เราว่ามันไม่ใช่ความเจ้าชู้หรอก แต่มันเป็นเรื่องของอารมณ์ เหงา อารมณ์เปล่าเปลี่ยว แล้วหวังจะพึ่งพาคนอื่น
ในความเป็นจริงแล้วปัญหามันอยู่ที่ใจ ใจที่มันเหงาตลอดเวลา ถ้ามันไม่แก้ตรงเนี่ย กลับไปแก้ด้วยการเอาคนอื่นมาถมใส่ชีวิตจนเยอะแยะมากมายไปหมด แล้วถ้าอีกฝ่ายทำไม่ถูกใจ หรือไม่มีเวลาให้ หรือ ไม่สามารถมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้ มันก็ไม่พ้น ต้องไปหาคนมาถมความรู้สึกนั้นใหม่ สุดท้าย มั้นก็กลายเป็นการลดคุณค่าตัวเองไปเสียอีก

ไม่แปลก เมื่อเราเข้าสู่วัยหนุ่มสาว แล้วเราจะลองผิดลองถูกกับการใช้ชีวิต(แน่นอนว่าเราก็ลองมา พลาดมาแล้วเช่นกัน)
ทุกผู้ ทุกคนในโลกใบนี้ล้วนต้องทำผิดพลาดเพื่อที่จะเรียนรู้ความเจ็บปวดแล้วสอนตัวเองว่าอย่าทำแบบนั้นอีก..

แต่พวกที่ทำพลาดเรื่องเดิมๆ ผิดเรื่องเดิมๆ ปวดหัวกับเรื่องเดิมๆ ร้องไห้กับเรื่องเดิมๆ นั่นไม่ใช่แค่เจ้าชู้ อันนี้เรียกว่า โง่ต่างหาก

เป็นกำลังใจให้ก้าวต่อไปค่ะ ^^

จากคุณ : dolphin_moo

**************

เราเองก็เคยเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ ยอมรับค่ะ

แต่เป็นเจ้าชู้ประเภทไม่มีแฟน ขี้เบื่อ เลยคุยกับผู้ชายเยอะมาก
จะบอกว่าป็อบปูล่าก็ใช่ ไม่ได้หลงตัวเองค่ะ
ผู้ชายหลายๆคนปลื้ม พยามทำคะแนนกัน ทุ่มเท
แต่ไม่มีใครคว้าใจเราไปซักคน
และที่สำคัญเจ้าชู้แบบเราก็ไม่เสียความบริสุทธิ์ ไม่ได้ง่าย
แค่สนุกที่ได้คุยกับทุกคน มีหลายๆคนมาคอยดูแล เป็นห่วง

จะว่ามันไม่ดีก็ไม่ดีถ้ามองในมุมคนถูกกระทำ จะว่ามันดีมันก็ดีค่ะ
เพราะใครๆก็อยากเป็นที่รักของทุกคน
เรื่องแบบนี้ไม่ลองด้วยตัวเองไม่รู้หรอกค่ะ เราเลยเลือกเสี่ยงลองให้มันรู้ไป

มันมีเทคนิคค่ะ องศา สีหน้า น้ำเสียง คำพูด แววตา รอยยิ้ม ทุกอย่างมันต้องฝึกค่ะ

เราบังเอิญจริงๆได้ศึกษาเดี่ยวกับจิตวิทยาแบบผ่านๆ
แล้วสนใจเลยไปฝึกปฏิบัติจริง ศึกษาจริง พอใช้แล้ว
ได้ผลกับทุกราย ออ เป้าหมายที่หวังนั้นสำเร็จ

มันขึ้นอยู่กับหลายๆองค์ประกอบ
ผู้หญิงเจ้าชู้ในมุมมองอีกแบบคือผู้หญิงมีเสน่ห์
ชอบที่จะบริหารเสน่ห์ และไม่จริงจัง ถลำลึกกับความรัก มันคือความสุขของเรา

แต่วันนี้
ทุกอย่างมันจบลงแล้ว
เพราะเรามีแฟนแล้ว ความเจ้าชู้ที่มีมันก็ยังมี แต่เอาออกมาใช้ไม่ได้แล้ว
เพราะหยุดแล้วที่ผู้ชายคนนี้...

เราเลิกคุยกับหลายๆคนแล้วเพราะคิดถึงคนที่รัก
คิดถึงใจเค้าใจเรา
ไม่อยากเอาความรู้สึกของคนหลายๆคนที่ชอบเรามาล้อเล่น
เลยตัดสินใจหยุดดีกว่า


จะบอกเทคนิคผู้หญิงนิดนึงนะคะ
ผู้หญิงเราควรจะมีหลากหลายในตัวเอง เปรี้ยวได้ หรูได้ เซอร์ได้ แอบแรดก้ได้ค่ะ
ผู้หญิงแสนดีนางเอกสุดๆ หัวอ่อน ใช้ไม่ได้กับสังคมนี้แล้วค่ะ มันจะเจอแต่ความผิดหวัง จมทุกข์
รวมถึงไม่ต้องทุ่มเทแต่ใส่ใจ คุณรู้จักที่จะร้ายแต่มีสติ และฉลาด
เวลามีรักอย่าให้อะไรมาเปลี่ยนคุณง่ายๆ เป็นตัวเองไว้แล้วค่อยปรับเข้าหา
น้ำนิ่งไหลลึก นิ่งไว้ และอย่าเปิดเผยอะไรมากถ้ายังไม่แน่ใจ
เป็นผู้ฟังมากๆ ห้ามซ้ำเติมและห้ามทำผู้ชายเสียหน้า เคารพศักดิ์ศรีของเค้า รักตัวเองมากๆ
แล้วคนอื่นจะรักคุณค่ะ


สุดท้าย ...ผู้หญิงที่เจ้าชู้ ก็ควรเจ้าชู้ให้ถูกทาง ถูกที่ ถูกสถานะ ไม่งั้นเดี๋ยวกรรมตาทันค่ะ เสียวววว หยึยยย

จากคุณ : Bianca